โรยัล เอ็นฟีลด์ ปล่อย THE NEW 2023 Bullet 350 – โมเดลรุ่นใหม่ล่าสุดในประวัติศาสตร์อันยาวนาน ไอคอนแห่งความเรียบง่าย ทนทาน และงดงาม มรดกที่ตกทอดกันมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1932
พัฒนาจากแพลตฟอร์ม J-series ที่ขับขี่ง่าย เสริมกำลังให้ Bullet แข็งแกร่งขึ้นเพื่อให้สอดรับกับความท้าทายในปัจจุบัน โดยยังคงความเก๋าของเครื่องยนต์โอเวอร์เฮดวาล์วในแบบฉบับ Old-school British
พร้อมจำหน่ายตั้งแต่วันนี้ กับ 3 รุ่นใหม่ และ 3 สีให้เลือก Standard Black, Standard Maroon และ สี Black Gold
โรยัล เอ็นฟีลด์ ผู้นำในตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลาง (250cc-270cc) ได้เปิดตัว All-new 2023 Bullet 350 รูปลักษณ์ใหม่จากรุ่น Bullet 350 หรือรุ่นมอเตอร์ไซค์ที่เป็นที่กล่าวขานมาอย่างยาวนานในประวัติ ศาสตร์มอเตอร์ไซค์และยานยนต์ และขึ้นชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของความทนทานและความยืดหยุ่นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด All-new โมเดลใหม่นี้ ได้พัฒนาเครื่องยนต์ J-series ขนาด 349 ซีซี อย่างละเอียดอ่อน ประณีต และเดินเรียบสม่ำเสมอที่สุด และยังเป็นรุ่นมอเตอร์ไซค์ที่สะท้อนภาพของสังคมและจิตวิญญาณของนักขับขี่ ผ่านการเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมที่เข้มข้นที่ได้สั่งสมมาตลอด 9 ทศวรรษตั้งแต่เริ่มผลิตรุ่นนี้มา
เมื่อหวนนึกถึงความทรงจำและการเดินทางของรุ่น Bullet 350 นาย สิทธัตถะ ลาล กรรมการผู้จัดการประจำ Eicher Motors ได้กล่าวว่า “ผมได้ขับขี่ระยะไกลคนเดียวครั้งแรกเมื่อฤดูร้อนปี 1994 ข้างกายผมมีเพียงเต็นท์ และสปิริตอันแรงกล้าสำหรับการผจญภัย ทริปในครั้งนั้นเป็นการขับขี่ข้ามยุโรป ผมได้เรียนรู้หลายสิ่ง ค้นพบมุมมองใหม่ๆ เกี่ยวกับตัวเอง และได้รับประสบการณ์ที่ยังชัดเจนแม้ผ่านมากว่า 30 ปี ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ ผมได้ยินเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับ Bullet รถมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ได้นำพาความเพลิดเพลินมาสู่ผู้คน คอมมูนิตี้ และครอบครัว ทำให้พวกเขาพบเจอกับความหมายของชีวิตการขับขี่ หรือการผจญภัย Bullet ถือเป็นมรดกที่ได้ตกทอดมาตามกาลเวลาและยุคสมัย ส่งต่อความสุขให้กับผู้คนมากมาย เราจึงมีปณิธานที่จะสานต่อความสุขจากรถรุ่นนี้ให้คงอยู่ต่อไป ในขณะนี้ เรามีรูปลักษณ์อัปเกรดใหม่สำหรับตัว Bullet ถือเป็นเกียรติของพวกเราอย่างมากที่ได้สืบทอดมรดกชิ้นนี้ให้คงอยู่ต่อไป”
หากจะมีมอเตอร์ไซค์สักรุ่นที่เด่นในเรื่องการคงอยู่เหนือกาลเวลา แน่นอนว่าจะต้องเป็น Bullet จากโรยัล เอ็นฟีลด์ เมื่อเปิดตัวครั้งแรกในปีค.ศ 1932 จุดเด่นของ Bullet ในตอนนั้นถือว่าเป็นดาวรุ่งในด้านการออกแบบมอเตอร์ไซค์ และในปีค.ศ. 1948 ได้มีการเปลี่ยนโฉมครั้งยิ่งใหญ่ ระบบรองรับล้อหลัง และสวิงอาร์มถือเป็นนวัตกรรมล้ำยุค ทำให้วงการมอเตอร์ไซค์ต้องสั่นสะเทือน จนผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์เจ้าต่าง ๆ ได้พัฒนาโมเดลในลักษณะนี้ตามกันมา
ประสิทธิภาพที่น่าทึ่งของ Bullet บนเส้นทางที่ท้าทาย ความสำเร็จจากการสนับสนุนกองทัพในประเทศอินเดีย และการย้ายฐาน การผลิตไปยังเมืองมัทราส (Madras) ในปีค.ศ. 1955 ทำให้ความนิยมของ Bullet พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ และดำเนินต่อมาตลอดหลายทศวรรษ และกลายเป็นราชาแห่งทุกท้องถนนในประเทศอินเดีย ต่อมาในปีค.ศ. 2010 ได้มีการพัฒนาครั้งยิ่งใหญ่ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ UCE (Unit Construction Engine) เพื่อตอกย้ำการเป็นแรงปรารถนาในฐานะไอคอนด้านมอเตอร์ไซค์และวัฒนธรรม Bullet มีประสิทธิภาพที่ครอบคลุมทุกรูปแบบการผจญภัย ด้วยอายุการใช้งานที่ยาวนาน Bullet ลุยได้ในหลากหลายสถานการณ์เท่าที่จะจินตนาการได้ ตั้งแต่การได้ชัยชนะในการแข่งขันสุดทรหดยิ่งใหญ่ระดับโลก “International Six Days’ Trials” สร้างสถิติรอบบนเกาะ Isle of Man การพิชิตเส้นทางบนภูเขาที่สูงที่สุด เป็นเพื่อนร่วมการเดินทางที่เชื่อถือได้ในทุกๆ ทริป ทั้งการขับขี่ในวันหยุดสุดสัปดาห์หรือทริปท่องเที่ยวรอบโลก นอกจากนี้ยังสามารถขับขี่ได้ในทุกๆ วัน หรือจะขับในเส้นทางที่ท้าทายก็เหมาะสม อีกทั้งยังเป็นแพลตฟอร์มสำหรับผู้ขับขี่สายปรับแต่งให้แต่งรถได้อย่างที่ต้องการ Bullet ได้เข้าร่วมในการแข่งขันอื่นๆ รวมถึงเป็นพันธมิตรที่ภักดีของผู้หลงใหลในการขับขี่มากกว่าหนึ่งล้านคนทั่วโลกอีกด้วย
Bullet ไม่เพียงแต่เป็นมอเตอร์ไซค์ที่อยู่ในสายพานการผลิตยาวนานที่สุดในโลก แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างทางสังคม ในประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นมรดกตกทอดที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น จนทำให้เกิดกลุ่มขับขี่มากกว่า 1,200 กลุ่ม เพลงที่ชื่อว่า Bullet Meri Jaan (Bullet คือชีวิต) ไม่ได้เป็นเพียงเพลงคุ้นติดหูที่มีเอ็มวีเท่ๆ สำหรับกลุ่มนักบิดที่ชื่นชอบ Bullet แต่มันคือสัญลักษณ์อันทรงพลังที่สะท้อนภาพของความดั้งเดิม ความอดกลั้น ความน่าเชื่อถือ และความเป็นความเฉพาะตัวของบุคคล
ตอนนี้ มอเตอร์ไซค์ที่ไว้วางใจได้และใช้งานได้อย่างหลากหลาย ได้นำมรดกอันเป็นเอกลักษณ์ ท่วงท่าที่สง่างาม โครงสร้างโลหะทั้งหมด เครื่องยนต์แรงบิดสูง และความกระหึ่มเฉพาะตัว เข้าสู่ยุคใหม่ที่น่าตื่นเต้น เมื่อพูดถึงการเปิดตัวBullet ปี 2023 คุณอนุจ ดัว Head of Business, APAC กล่าวว่า “สำหรับผม บุลเล็ตเป็นสัญลักษณ์ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ของวัตนกรรมด้านวิศวกรรมและสุนทรียภาพได้ ด้วยความน่าเชื่อถือที่หนักแน่นและเป็นพันธมิตรกับผู้กล้าหาญมานานกว่า 90 ปี Bullet มีลวดลายและงานฝีมือโดยช่างฝีมือถึงสามรุ่น โดยยังคงรักษาเสน่ห์ไว้ได้โดยไม่หวั่นต่อกระแสแฟชั่น ความเรียบง่ายสบายตานั้นแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดกับความน่าเชื่อถือที่แข็งแกร่ง ความพิเศษ เรามีความพยายามอย่างเด็ดเดี่ยวที่จะรักษาแก่นแท้ตำนานของ Royal Enfield Bullet ในขณะที่พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขับขี่แบบใหม่แห่งศตวรรษสืบไป”
เครื่องยนต์ Royal Enfield Bullet 350 ใหม่ ปี 2023 ใช้เครื่องยนต์สูบเดี่ยวขนาด 349 ซีซี ระบายความร้อนด้วยอากาศ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เดียวกันกับที่ใช้ใน Meteor Classic และ Hunter เครื่องยนต์ได้รับการฉีดเชื้อเพลิง ให้กำลังสูงสุด 20.2 แรงม้า ที่ 6100 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 27 นิวตันเมตร ที่ 4000 รอบต่อนาที เครื่องยนต์มีความยืดหยุ่นสูง การส่งกำลังราบรื่น และการขับขี่ที่ทั้งนุ่มนวลและเร้าใจ บาลานซ์เซอร์ชาฟท์ช่วยลดแรงสั่นสะเทือน ทำให้รู้สึกได้ถึงความตอบสนองและความนุ่มนวล ในขณะที่การเปลี่ยนเกียร์นั้นกระชับและราบรื่นด้วยเกียร์ 5 สปีดที่ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสม มั่นใจว่าได้เลยว่าคุณจะได้ประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยม
โครงสร้างรถได้รับการออกแบบให้มีความคล่องแคล่วในการบังคับควบคุมและการเข้าโค้ง ความแข็งแกร่งที่มากกว่าเดิม ซึ่งช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงและรู้สึกมั่นคงบนทุกเส้นทาง นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งโช้กหน้าขนาดใหญ่ 41 มม. และยางที่กว้างขึ้น คือ 100/90 -19 ที่ด้านหน้าและ 120/80 -18 ที่ด้านหลัง เบาะนั่งตอนเดียวแบบใหม่ และช่วงล่างที่ได้รับ การออกแบบมาเพื่อการขับขี่ที่นุ่มนวลและสบายยิ่งขึ้น ไฟเลี้ยวตัวใหม่ที่ได้รับการออกแบบให้มีความสมดุลกับตัวรถมากขึ้น ทำให้รถมีรูปลักษณ์ที่ทันสมัยแต่ยังคงความคลาสสิกไว้ พร้อมดิสก์เบรกหน้าขนาด 300 มม.และดิสก์เบรกหลังขนาด 270 มม.
Bullet 350 ใหม่ ปี 2023 มีให้เลือกถึง 3 สี ด้วยการประกอบงานฝีมือระดับพรีเมียม โดยมีสี Standard Black, Standard Maroon และ Black Gold ที่มาพร้อมกับตัวถังลูกเล่นสีดำด้านและเงา พร้อมเส้นสายบนถังน้ำมันที่วาดด้วยมือสีทองแดง และเครื่องยนต์และชิ้นส่วนสีดำที่ทันสมัย พร้อมระบบเบรก ABS แบบสองทิศทางและดิสก์เบรกหลัง ทั้งสามสีมาพร้อมกับถังน้ำมันทรงหยดน้ำขนาด 13 ลิตร และไฟหน้าแบบใหม่พร้อมกับไฟนำทางแบบ ‘tiger eyes’ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรถจักรยานยนต์ Royal Enfield ตั้งแต่ปี 1954 แผงหน้าปัดแบบดิจิทัล-อนาล็อกแบบใหม่ หน้าจอ LCD และพอร์ตชาร์จ USB ที่ติดตั้งอยู่ใต้แฮนด์บาร์ตามมาตรฐานในทุกรุ่น สวิตช์ควบคุมได้รับการออกแบบมาอย่างพิเศษเพื่อให้มั่นใจว่าการออกแบบและการประกอบตัวเครื่องนั้นมีคุณภาพ สวยงามอย่างมีระดับ พร้อมสวิตช์ในรูปแบบปุ่มหมุน ดีไซน์สวยงามที่ผสมผสานความสะดวกในการใช้งานเข้ากับสไตล์ย้อนยุคที่น่ามอง โดยสี Standard Black, Standard Maroon และ สี Black Gold จะเริ่มส่งมอบรถได้ตั้งแต่ช่วงต้นปีหน้าเป็นต้นไป
ไม่มีมอเตอร์ไซค์ใดเหมือนกับ Bullet อันมีเอกลักษณ์ที่สั่งสมความเก๋ามายาวนาน แต่ยังคงได้รับการอัพเดตและพัฒนาให้ทันสมัยอยู่เสมอ Bullet คือผู้สืบทอด DNA ‘pure motorcycling’ ของ Royal Enfield Royal Enfield ณ เวลานี้ โลกจะเห็น Bullet ด้วยภาพลักษณ์ใหม่จนตกหลุมรักสไตล์เรียบง่ายและความทนทานเหนือกาลเวลานี้อีกครั้ง ความรอคอยสิ้นสุดลงแล้ว Bullet 350 ใหม่ ปี 2023 ในฐานะความงดงามเหนือกาลเวลาของ Royal Enfield #BulletMeriJaan #Bullet350 #RoyalEnfield