Samsung และ Apple เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟน โดยเมื่อมองย้อนกลับไปในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา Samsung ก็ยังคงครองตำแหน่งผู้นำด้านยอดส่งมอบสมาร์ตโฟน ซึ่งการนำหน้า Apple แสดงถึงการเข้าถึงตลาดที่กว้างและการมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของ Samsung
ข้อมูลจาก IDC’s Worldwide Quarterly Mobile Phone Tracker เผยว่าระหว่างปี 2014 ถึง 2024 Samsung ส่งมอบสมาร์ทโฟนประมาณ 3.1 พันล้านเครื่อง ซึ่งมากกว่า Apple ที่ 2.3 พันล้านเครื่องอย่างมาก นั่นคือจำนวนที่แตกต่างกันมากกว่า 700 ล้านเครื่อง (ตัวเลขใกล้เคียงกับประชากรทั้งหมดในภูมิภาคอาเซียนเลยทีเดียว)
การสูญเสียตำแหน่งผู้นำตลาดของ Samsung
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Samsung จะยังคงครองตำแหน่งผู้นำในการส่งมอบสินค้า แต่ยอดขายประจำปีได้ลดลง 30% ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
ในปี 2014 Samsung ส่งมอบสมาร์ทโฟน 318.1 ล้านเครื่อง แต่ในปี 2024 จำนวนนี้ลดลงเหลือ 223.5 ล้านเครื่อง การลดลงนี้เกิดจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากแบรนด์จีนและการเปลี่ยนแปลงไปสู่ผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม เช่น ซีรีส์ Galaxy S และ Z
ในขณะเดียวกัน Apple ยอดส่งมอบ iPhone รายปีเพิ่มขึ้น 22% ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจาก 192.7 ล้านเครื่องในปี 2014 เป็น 228.2 ล้านเครื่องในปี 2024 การเติบโตของ Apple ส่วนหนึ่งมาจากการขยายตัวเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่ เช่น อินเดีย
ส่วนแบ่งการตลาดที่เปลี่ยนไป
แม้จะครองตลาดอยู่ แต่ทั้ง Samsung และ Apple ก็สูญเสียส่วนแบ่งการตลาดเนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงจากแบรนด์จีน เช่น Xiaomi, Oppo และ Vivo
ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 Apple ครองส่วนแบ่งการตลาด 23% ในขณะที่ Samsung อยู่ที่ 16% แต่ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ส่วนแบ่งการตลาดของ Samsung ลดลง 5.8% ในขณะที่ของ Apple เพิ่มขึ้น 4.5%
ผลกระทบของกลยุทธ์และการแข่งขัน
จำนวนการส่งมอบของ Samsung ที่ลดลงนั้นเกิดจากการมุ่งเน้นกลยุทธ์ไปที่รุ่นพรีเมียม โดยหันเหไปจากตัวเลือกราคาประหยัด ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตรายอื่นจากจีนเข้าครอบครองส่วนแบ่งที่ใหญ่ขึ้นในภูมิภาคที่ Samsung เคยเป็นผู้นำ ในขณะเดียวกัน Apple ได้ใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศน์ที่แข็งแกร่ง การสนับสนุนซอฟต์แวร์ระยะยาว และการวางตำแหน่งระดับพรีเมียมเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด
