Samsung ยังคงมีจุดขายของ สมาร์ทโฟนตัวเองมาอย่างนานแน่นอนว่า 1 ในนั้นก็คือเรือธงที่มาพร้อมปากกาครับบอกมาแบบนี้แล้วคงเดากันไม่ยากสำหรับ สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ นั่นก็คือ Galaxy Note มาถึงรุ่นที่ 9 กันแล้วครับสำหรับ Note หลังจากที่ รุ่นที่แล้วก็สร้างความน่าตื่นเต้นกันไปพอสมควรทั้งดีไซน์และปากกา สำหรับตัวใหม่ที่ทาง Samsung เปิดตัวไปนั้นต้องบอกเลยว่า มีหลายคนรวมถึงแอดมินก็มองว่ามันแทบไม่แตกต่างเลยรวมถึงปรับเปลี่ยน น้อยมากๆ ไม่ค่อนเจอจุดพัฒนาจากรุ่นก่อน อีกทั้งด้านดีไซน์ก็ธรรมดามากๆ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมกับการวาง ตำแหนงสแกนลายนิ้วมือที่ใช้งานยาก แต่เมื่อลองใช้งานจริงๆแล้วจะเป็นยังไงบ้างก็ไปติดตามกันได้เลยนะ

Note 9 เปิดตัวไม่กี่วันที่ผ่านมาพร้อมกับจุดเด่นที่หลักๆคือเน้นไปที่ปากกา อย่างแน่นอน แต่ครั้งนี้มาพร้อมกับกากใช้งานที่มากกว่าการวาดครับ มันควบคุมระยะไกลได้ ใช้ถ่ายรูปต่างๆ กดเลื่อนรูป แต่ก็ยังมีฟีเจอร์เรื่องอื่นๆมาด้วยกันเช่นกล้องหลังที่ยกมาจาก S9+ ละพร้อมด้วย Ai แยกซีนมาให้ในตัวกล้อง เรื่องของแบตก็มาให้มากถึง 4000mAh

ราคาในรุ่นนี้ เปิดตัวมาด้วยราคาเดิมถือว่าทำราคาได้ดีมากๆ พร้อมกับ RAM 6GB ROM 128 GB และในไทย ขายทั้งหมด 3 สีด้วยกันคือ  Midnight Black, Metallic Copper, Ocean Blue และที่เด่นๆคือปากกามันตามสีตัวเครื่องเลยครับ พร้อมกับ ตัวสี   Ocean Blue นั้นปากกาจะพิเศษมีพร้อมปากกาสีเหลือง เด่นสุดๆไปเลย

UNBOXING SAMSUNG GALAXY  NOTE 9

ภายในตัวกล่องมอุปกรณ์มีมาให้ครบเช่นกันเหมือนรุ่นก่อนแต่มีการปรับเปลี่ยนเคสที่แถมมาให้ ใช้งานดีขึ้นครับ

  • ตัวเครื่อง Samsung Galaxy NOTE 9
  • เคส TPU ใสนิ่ม ไม่กัดตัวเครื่องแบบรุ่นก่อน
  • OTG Adaptor
  • สายชาร์จ Type-C
  •  Adaptor Fastcharge
  • คู่มือ
  • ที่จิ้มซิม
  • ที่เปลี่ยนหัวปากกา S-Pen
  • หูฟัง 3.5 มม IN-Ear ปรับเสียงโดย AKG
  • จุกยางหูฟังขนาดต่างๆ

ตัวเคสเครื่องที่แถมมาให้นั้นเปลี่ยนจากรุ่นเดิมที่เป็นเคสแข็งครับ และกัดขอบเครื่อง ซึ่งได้มีการเปลี่ยนมาเป็นเคสใสนิ่ม TPU ที่มีความหนาปานกลางคล้ายๆของ Nilkin มีจุดๆด้านหลังและนิ่มครับ ส่วนด้านการออกแบบในด้านหน้าชอบมากๆตรงที่มีขอบเลยหน้าจอขึ้นมาทำให้เวลาวางคว่ำนั้นจะไม่โดนหน้าจอนั้นเองช่วยได้เยอะมากครับในจุดนี้

DESIGN

สำหรับการออกแบบนั้นแอดมินบอกเลยตั้งแต่แรกเห็นมันไม่มีการพัฒนาอะไรมากเลยจากรุ่นก่อนทั้งหน้าและหลัง ยิ่งด้านหลังแอดมินชอบรุ่นก่อนมากกว่าเยอะมาก ! แต่ยังดีสีทองแดงยังช่วยความสวยไว้ได้แต่ดีไซน์ยังคงยืนยันว่ารุ่นเดิมสวยกวา และ จับเข้ากับมือมากกว่า และ ขอบไม่คมด้วย น้ำหนักกลางๆ ขนาดใหญ่พอสมควรครับ หน้าจอมาพร้อมกับ Super AMOLED 6.4 นิ้ว Gorilla Glass 5 ความละเอียด QHD ขอบหน้าจอหนากว่าเดิมนิดหน่อยครับ

ด้านหน้าจอส่วนบนนั้นมี พื้นที่นิดหน่อยให้พวกเซนเซอร์ทั้งหลายครับ IR สแกนม่านตา เซนเซอร์วัดแสงต่างๆรวมถึงลำโพง ที่ทำหน้าที่เป็นลำโพงคู่ด้วย และกล้องหน้าครับ แต่ถ้ามาวางเทียบกันนั้นจะเห็นว่าขอบบนล่างแคบกว่า แต่ซ้ายขวานั้นจะหนากว่าทาง Note 8 ถ้าเอามาเทียบกันนะครับ

พื้นที่ส่วนของด้านล่างก็มีนิดหน่อย และ ย้ายปุ่มทั้งหมดไปไว้บนหน้าจอเหมือนรุ่นก่อนหน้านี้ครับขอบจอโค้งทั้ง 2

ด้านขวาของตัวเครื่องจะเห็นว่าหนาพอสมควร แต่หลอกตาได้ด้วยการใช้วัสดุกระจกโค้งทั้งหน้าจอและฝาหลัง ทำให้ดูบางไม่หนาเกินไป อีกทั้งยังมีปุ่ม เพิ่ม ลดเสียง และ ปุ่มเรียกใช้งาน Bixby ยังคงมีมาในรุ่นนี้นะ
ด้านขวาของตัวเครื่องเรียบๆมีเพียงปุ่มเดียวคือ Power ตรับบอดี้ด้านข้างเป็นอลูมิเนียมขัดเงานิดๆ ไม่หนามากเมื่อมองในรูปนี้จะเห็นว่าขอบจอสีดำมันลากลงมาด้านข้างจึงทำให้ดูไม่หนาช่วยหลอกสายตาไปได้หน่อยนึง  ส่วนของขอบด้านบน มีรูไมค์ และ ถาดใส่ซิมแบบ Hybrid พร้อมกับเสาสัญญาณ ทั้ง 2 ข้างนะครับในตัวนี้
สำหรับขอบด้านล่างตัวนี้ ยังคงมีรู 3.5มม ไม่ตัดไปไหนอันนี้ยังไม่ตัดไปสะดวกดี พร้อมกับ Type-C รูไมค์และลำโพงหลัก รวมถึง ปากกา S-Pen ในด้านขวาสุดครับ ใช้งานในการกดออกมาได้เลยเหมือนรุ่นก่อนหน้านี้
ด้านหลังตัวนี้ยังคงมีกลื่นอายอย่างมากจากรุ่นเดิม ทั้งการวางกล้องและรูปทรงตัวเครื่องแต่มีการเปลี่ยนตำแหน่งสแหนนิ้วมาด้านล่างและ ช้โทนสีข้างในแบบเดียวกับตัวเครื่องต่างกับรุ่นก่อนที่จะเป็นสีดำครับ ไม่เทียบกันจะยากเลย

ด้านหลังโดยรวมจะเป็นดีไซน์เหลี่ยมแนวยาวกว่าเดิมนิดหน่อยและมีการวางทั้งหมดคล้ายรุ่นเดิมยกเว้นสแกนนิ้วที่ใช้งานจริงแอบขัดตาขัดใจ เอื้อมถึงยากเล็กน้อย วัสดุสีต่างๆนั้นทำได้สวยและสะท้อนแสงสวยงามเลยทีเดียวครับ

OTG รองรับการใช้งานด้วยนะครับมีแถมมาให้ในกล่องสามารถใช้งานได้เลย เสียบ Flashdrive ย้ายข้อมูลต่างๆครับ

SPEC SAMSUNG GALAXY NOTE 9

  • Android 8.1 + Samsung Experience
  • จอ Super AMOLED Infinity Display  6.4 นิ้ว อัตราส่วน 18:5:9 ความละเอียด QHD+
  • S PEN รองรับ Bluetooth Low-Energy
  • ใช้งาน S PEN เพื่อสั่งงาน Galaxy Note 9 ให้ถ่ายภาพ, หยุด/เล่น วีดีโอหรือเพลง, เปลี่ยนหน้าสไลด์ขณะพรีเซนต์งาน และอื่นๆ ได้ภายในรัศมี 10 เมตร
  • เขียน ScreenOff Memo แบบสีได้
  • Samsung Exynos 9810 Octa-Core CPU (2.7 GHz + 1.7 GHz)
  • RAM 6 GB  ROM 128 GB
  • ลำโพงคู่ที่ Tuned by AKG +Dolby Atmos
  • แบตเตอรี่ 4,000 mAh QC 2.0 + Samsung Fast charge
  • กล้องหลังคู่ความละเอียด 12 MP +12 MP ตัวเดียวกับ ปรับค่ารูรับแสงได้ F/1.5 และ F/2.4 พร้อมระบบกันสั่น Dual OIS  รองรับการถ่ายวีดีโอแบบ Super Slowmotion 960 fps ที่ความละเอียด HD
  • กล้องหน้า ความละเอียด 8 MP F/1.7
  • Usb  Type-C
  • Samsung DEX ที่มีขนาดเล็กลง เชื่อมต่อง่ายๆ เพียงแค่ต่อสายเข้ากับหน้าจอคอมพิวเตอร์
  • กันน้ำกันฝุ่นระดับมาตรฐาน IP68
  • Smart Inteligent ที่สามารถใช้งานระบบสแกนใบหน้าและสแกนม่านตาไปพร้อมกันได้
  • สีที่มาขายในไทยนั้น มาพร้อม Metallic Copper , Ocean Blue , Midnight Black

PERFORMANCE

ประสิทธิภาพยังคงไว้ใจได้แต่เป็น Exynos Samsung Exynos 9810 Octa-Core CPU (2.7 GHz + 1.7 GHz) ที่คุ้นเคยกันดีครับ คะแนนทำไปได้ 217787 และทำในส่วนของ 3DMARK ไปได้ 3334 2882 ส่วนเรื่องของหน่วยความจำแน่นอนมาพร้อม UFS2.1 และ Geekbench ก็ทำคะแนนได้ดีครับ จริงๆคะแนนทั้งหมดที่ดูอาจจะแพ้พวกรุ่นใหม่ๆที่ใช้ Snap 845 แบบนิดหน่อยนะครับด้วย Exynos ตัวนี้อาจจะขับไม่ได้แรงมากแต่ก็ใช้งานทั่วไปสบาย ส่วนเรื่องของสายเกมส์เดี๋ยวไปติดตามกันว่าจะทำได้ดีแค่ไหนครับแต่ระบบการใช้งานก็พอลื่นไหลได้สบาย

SYSTEM UI

หน้าตายังคงคุ้นเคยกันดีครับ Samsung Experience และ อยู่บน Android 8.1 จริงๆระบบของ Samsung เป็นปัญหามานานครับ ว่าไม่ลื่นบ้าง เด้งบ้างและในครั้งนี้แอดมินเจอเช่นกันแต่ก็อาจจะมีอัพเดทมาในอนาคตครับ หน้าตาคล้ายเดิม มี Appdrawer มาให้เช่นกันการแจ้งเตือนปกติมีเลขมาให้มุมแอพครับ
Quicksetting มีให้เลือกตั้งค่าเร่งด่วนปกติ ลากลงมาอีกเจอตั้งค่าเพิ่มเติมครับปรับแสงหน้าจอได้และการแบ่งหน้าจอนั้นทำได้หลายหน้าจอมากๆซึ่งต้องบอกเลยว่าเป็นอีกจุดที่ทาง UI Samsung ทำได้ดีครับแบ่งได้เยอะมากจริงๆ

คียบอร์ด Samsung ยังคงมาเหมือนกันหลายๆคนติดใจครับใช้ง่ายดี ส่วนหน่วยความจำ มาทั้งหมด 128 เหลือให้ใช้ 100 หว่า ระบบกินไป 20 นิดๆครับซึ่งถ้าตัว 512 ระบบกินไป 40 เลยทีเดียว ส่วน RAM เหลือครึ่งๆเป็นปกติ

ฟีเจอร์อื่นๆก็มีมาครบทั้งหน้าจอแจ้งเตือนเวลายก การกดวางสายรับสายเพิ่มเติม  และสามารถปรับความละเอียดหน้าจอได้ครับว่าจะเอาแบบไหน ปรับได้ 3 ความคมชัดช่วยในเรื่องของการประหยัดแบตได้นิดหน่อย

Gesture อื่นๆที่น่าสนใจก็มีมาให้ครับเรียกได้ว่ามาครบเพียงพอ หน้าจอขอบโค้งก็ยังมีมาให้แจ้งเตือนไฟวิ่งสวยๆรอบจอหรือจะเป็นแอพขอบจอครับ ไม่แน่ใจว่ามีหลายคนยังใช้กันอยู่ไหมฟังก์ชั่นนี้  และปุ่มนำทางเปลี่ยนได้หลากหลาย

THEME

ธีมในระบบนั้นก็ปรับเปลี่ยนได้ค่อนข้างเยอะครับ ทั้งหน้าตา แอพ โทนสีในตัวหน้าตาทั้งหมด และ Wallpaper ใน่สวนของการโทรเข้าออก ธีมต้องบอกว่ามีให้เลือกเยอะ แต่ที่สวยๆนั้นส่วนใหญ่ต้องเสียตัง เอาครับเท่าที่ลองดูก็ถือว่าเยอะเลยทีเดียวและมีผลต่อหน้าตาในหลายๆส่วนเลยครับ ไม่ใช่แค่เปลี่ยน ICON แบบบางแบรนด์ จะเห็นได้ว่าธีม นั้นมีผลอย่างมาก เช่นหน้าตาตอนโทร ก็มีการเปลี่ยนแป้นพิมพ์ หน้ารายชื่อ หน้า Always On หน้า Message และ หน้าตาของQuicksettingก็มีผลค่อนข้างเยอะในจุดนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีครับสวยน่ารักไปเลยสำหรับตัวSamsung

S PEN 

ปากกายังคงพัฒนาไปได้อีกแต่ครั้งนี้ไม่ใช่ในเรื่องของการวาดรูปแต่เป็นการทำให้มันสามารถควบคุมได้ ควบคุมยังไงบ้างเช่น การถ่ายเซลฟี่ การเปลี่ยนรูป หรือใช้งานอื่นๆอีกมากมาย แต่การรองรับแรงกด อะไรนั้นยังคงเหมือนรุ่นเดิมครับ เพราะตัวปากกาในการวาดเขียนมันน่าจะทำได้สุดๆประมาณนี้แล้วอีกทั้งยังมีจุดเด่นของมันคือสีที่สวยงามตามเครื่องและ ตัวสีน้ำเงินปากกามาพร้อมกับสีเหลืองจัดจ้านเลยทีเดียวครับเราไปดูกันว่าปากกาครั้งนี้สามารถทำอะไรได้

ตัวปากกานั้นสามารถใช้งานได้เหมือนเดิมในทุกๆฟังก์ชั่นแต่ครั้งนี้ใน Live Message มีการพัฒนาในหลายๆจุดทั้ง Effect ที่สวยงามขึ้นและยังเขียนลง Sticker Ar ที่เราสร้างขึ้นมาได้อีกด้วยครับ ส่วนเรื่องของการใช้งานความไวแม่นและลื่นไหลยังคงทำได้ดีเหมือนรุ่นเดิมเลยแหละ ไว้ใจได้ว่าปากกา S-Pen ของ Samsung ไม่ผิดหวังครับผม รวมถึงโปรแกรม PENUP  ก็ใส่เข้ามาให้เราฝึกลงสี วาดภาพตามได้อย่างสะดวกมากๆสอนเป็นวีดีโอลากตามเลย

อีกจุกนึงคือการเขียนตอนหน้าจอดับอันนี้แอดมินชอบมากกกกสะดวกมากจริงๆครั้งนี้มันเปลี่ยนสีตามปากกาที่เขียนด้วยนะครับดีงามจริงๆแน่นอนว่ายังคงเขียนได้แม้จอเปียกแบบในภาพครับก็ยังเขียนได้สบาย สำหรับการเขียนแบบหน้าจอดับครับทำงานได้ดีและเป็นฟังก์ชั่นที่แอดมินชอบที่สุดในรุ่นนี้เลยแหละใช้งานได้จริงๆทั้งวาดและจดงาน

ปากกาตัวนี้ยังมาพร้อมความสามารถที่จะทำได้หลากหลายเช่นถ่ายภาพสลับกล้องและรวมถึงมีหลากหลายแอพที่รองรับการใช้งานครับและทาง Samsung ได้บอกว่า อนาคตนั้นจะทำให้ Dev ไปพัฒนาได้เพราะมี SDK ของตัวเองรวมถึงเอาไปต่อยอดได้อีกในรุ่นต่อๆไปครับถือว่าเป็นแนวทางที่ดีและเริ่มต้นได้ดีในการหาความแปลกใหม่ให้ปากกา แต่จะใช้งานได้จริงและผลตอบรับดีขนาดไหนต้องไปติดตามกันต่อไปครับผม ซึ่ง Software ปรับได้เยอะ

จาก Software นั้นจะเห็นได้เลยว่า S-Pen สามารถปรับแต่งแต่ละแอพได้ค่อนข้างมากครับและมีบอกแบตในตัวปากกาด้วยว่าเหลือเท่าไร การปลดล็อคด้วยปากกาการใช้งานเวลาหน้าจอดับ ทางลัด Airview พวกนี้เหมือนเดิมเลยแต่ที่น่าสนใจคือมีการเพิ่มความสามารถใช้งานในหัวข้อ รีโมท S-Pen เข้ามาครับซึ่งเราสามารถปรับแต่งได้เป็นแอพเลยที่ยังใช้งานได้ตอนนี้จะเป็นแอพตามภาพเลยครับ ซึ่งมีให้ปรับเปลี่ยนได้ว่า กด 1 ครั้งทำอะไรและ 2 ครั้งทำอะไร

DEX MODE

ปรับมาให้ใช้งานง่ายขึ้นและสะดวกขึ้นครับสามารภใช้งานกับ Adaptor ปกติได้เลย จากในภาพนั้นแอดมินต่อแบบใช้สายแปลง Type C – HDMI ที่ใช้กับ Mac ก็ใช้งานได้สบายครับ ตัวเครื่องจะส่งภาพออกมาให้เลือกว่าจะเอาแบบ DEX หรือ จะแค่ Mirror ปกติครับ อีกทั้งตัวเครื่องยังสามารถใช้งานเป็น Touchpad ได้อีกด้วยต้องบอกว่าสะดวกกว่าเดิมอย่างมากครับทำให้การใช้งานนั้นไวและง่ายขึ้นแต่อาจจะชาร์จไฟเข้าไม่ได้เหมือนแบบเดิม อันนี้ต้องหา Adaptor ที่มันรองรับอีกทีนะครับหรือใช้ของ Samsung ไปเลยน่าจะทำงานได้เต็มที่มากกว่านั้นเอง

ตัวปากกาแอดมินบอกเลยว่ามันทำงานได้หลากหลายมากขึ้นครับไม่ใช่แค่วาดภาพอีกต่อไปมันสามารถใช้งานควบคุม ตัวหน้าจอได้ควบคุมอะไรได้บ้างก็แล้วแต่แอพและสิ่งที่เราจะตั้งได้เลยครับ ตามหัวข้อก่อนหน้านี้เลยซึ่งจากที่แอดมินทดลองนั้นเวลาดูรูปภาพจอใหญ่ กดครั้ง เปลี่ยนภาพ 2 ครั้งย้อนกลับก็ใช้งานได้สะดวกดีครับแต่บางก็ก็แอบกดติดยากและมีเอ๋อบ้างเวลากดใช้ไปนานๆครับ และบางทีก็แอบกดไม่ไปนิดหน่อยไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะอะไรแต่ก็ถือว่าเป็นการพัฒนาปากกาที่มาอีกแนวทางนึงครับ แบตอยู่ได้ 30 นาที ถือว่าน้อยไปนิดแต่ด้วยขนาดปากกาก็พอเข้าใจได้

ตัวหน้าตาเวลาใช้งาน DEX เราก็สามารถใช้งานเครื่องได้ปกติครับ แอพที่ทำงานในจอทีวีก็แยกกันไปสะดวกดีเหมือนกัน แต่เหมือนหลายๆแอพเมื่อเอาไปใช้ทีวีจะยังทำงานไม่เต็มที่ เหมือนแค่ Mirror แอพขึ้นไปครับยังไม่สะดวกจนสามารถแทนคอมพิวเตอร์ได้เท่าไรนักสำหรับในจุดนี้ที่แอดมินลองนะครับ ซึ่งคียบอร์ดเมาส์สามารถใช้ BT ต่อเอาได้ถ้าใครมี หรือ USB Hub เสียบกันไปได้ครับผม สะดวกขึ้นกว่ารุ่นเดิม แต่ก็ยังไม่สามารถแทนได้เต็มที่ครับผม

ALWAYS ON DISPLAY

Samsung ถือว่าเป็นจุดเด่นมานานสำหรับเรื่องนี้ครับ หน้าจอนั้นจะแสดงให้เห็นพวกเวลา วันที่ การแจ้งเตือนต่างๆโดยที่เราไม่ต้องกดดูจากมือถือ และ มันพัฒนาขึ้นให้มีหน้าตาสวย ใส่รูปอะไรได้ นี่ก็เป็นหน้าตาการตั้งค่าว่าเราสามารถปรับอะไรได้ค่อนข้างเยอะ แสดงอะไรบ้าง เปลี่ยนสีนาฬิกา หรือ รูปแบบได้ซึ่งมีความหลากหลายเยอะขึ้นครับ

หน้าตาสวยงามกว่าเดิม และ มีพื้นหลังสวยๆอีกด้วยสำหรับหน้าจอ AOD ครั้งนี้และอัพเดทล่าสุดทำให้มันใช้งาน หน้านี้โดนเราใส่ ไฟล์ GIF มาไว้บนนี้ได้ด้วยจะขยับๆหน่อย เช่นเอา AR EMOJI มาใช้งานในหน้านี้ก็ได้เช่นกันครับ

SCREEN 

Galaxy Note 9 เป็นสมาร์ทโฟนที่หน้าจอดีที่สุดในโลกเลยทีเดียว ซึ่งมาพร้อมกับ Super AMOLED Infinity Display ขอบจอโค้งทั้ง 2 ข้าง ขนาด 6.4 นิ้ว อัตราส่วน 18:5:9 ความละเอียด QHD+ ซึ่งจอรุ่นนี้มาพร้อมความสว่างอย่างมากถึง  1,050 nits และรองรับ HDR 10 เทคโนโลยีทั้งหลายพร้อมกับได้มือถือที่หน้าจอดีที่สุดจาก Displaymate อีกด้วยครับและจากการใช้งานแอดมินต้องบอกเลยว่าเห็นด้วย สู้แสงได้ดีมากๆสีตรงไม่สดเวอร์เหมือนแต่ก่อน และยังใช้งานได้ดีสวยคมชัด ตามปกติของ AMOLED เลยครับ หน้าจอยอมรับทำได้ดีมากๆเลย

GAMES

เรื่องของการเล่นเกมส์ตัวนี้มาพร้อมกับ Exynos เช่นเคยหลายๆคนได้ยืนชื่อนี้คงจะแบบ เล่นเกมส์ไม่ลื่นแน่ๆ ภาพไ่สวยไม่ลื่นเท่า Snapdragon แต่จากที่แอดมินลองนั้นต้องบอกเลยว่าเห้ยมันพัฒนามาได้ดีมากเลยนะและแน่นอนในตัวนี้มาพร้อมกับระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวอีกด้วยทำให้ควบคุมความร้อนได้ดีมากๆและทำให้ FPS ไม่ตกจึงทำให้เล่นเกมส์ได้ดีมากๆถือว่าลื่นมากเลยลองดูจากในคลิปที่แอดมินลองได้เลยครับ เช่นที่แอดมินลอง PUBG-ROS-ROV-ASPHALT 9 พวกนี้เล่นได้สบายและควบคุมความร้อนได้ดีมากๆครับ เรื่องเกมส์ไว้ใจได้ครับในเรื่องนี้

สำหรับเกมส์พิเศษอย่าง FORTNITE นั้นให้เล่นแค่แบรนด์ Samsung ก่อนในช่วงนี้และแน่นอนทำออกมาแบบนี้ต้องทำให้ออกมาลื่นอยู่แล้วครับในเรื่องของการเล่นเกมส์ FORNITE แม้จะยังปรับอะไรสุดมากไม่ได้เท่าไรนักแต่จากที่ลองยังไม่เจออาการหน่วง กระตุกให้หนักใจ หรือ หัวร้อน ครับสำหรับ FORNITE ใน Galaxy Note 9 ครับ

SOUND 

เพลงเสียงตัวนี้ยังคงให้อารมณ์คล้ายตัวเดิมแต่ที่ดีงานยังคงมีรู 3.5 มม. มาให้ครับ ตัวหูฟังที่แถมนั้น ปรับเสียงโดย AKG เช่นเดิมตัวหูฟังนั้นยังคงดีไซน์ทั้งหมดเหมือนเดิมครับเป็นสีดำ เป็นสายถักใน่สวนของล่าง ตัวเสียงนั้นขับออกมาได้ปานกลางไม่ได้ดังเด่นมากครับ ตัวเครื่องมีปรับเสียงให้ค่อนข้างเยอะทั้ง Effect Dolby และ ปรับจูนเร่งแรงขับ ปรับเบส ต่างๆครับถือว่าปรับได้เยอะแต่มันเป็นการปรับ Software ซะมากกว่าบางทีปิดไว้นั้นให้เสียงที่ดีและไม่เพี้ยน เรื่องของหูฟังที่แถมเสียงนั้นใกล้เคียงรุ่นเดิมมากๆ

ตัวเรื่องของหูฟัง เป็นพลาสติกและเหมือนตัวก่อนเขียนว่า AKG ครับ น้ำหนักเบาใส่สบายหน่อย โทนสีดำทั้งหมดครับสายส่วนบนนั้นเป็นยางปกติครับ ด้านล่างๆนั้นจะเป็นสายถัก ตัวจุดนั้นใส่สบายอยู่นะสำหรับเรื่องของเสียงตัวนี้ใช้ได้แบบสบายๆไม่ได้เด่นด้านใดด้านนึงมากครับ เบสมาแบบพอดีเล็กน้อย แต่จะเน้นเสียงใสมากกว่าใน หูฟังของ Note9 ในครั้งนี้ที่ได้รับการปรับ เรื่องของเสียงจาก AKG ถ้าใครชอบแบรนด์นี้น่าจะคุ้นเคยกับสไตล์เสียงนี้พอสมควรครับ ตัวควบคุมเพิ่มลดเสียงมีมาให้เหมือนเดิมครับในตัวหูฟังแถม สามารถสั่งงานได้เลยครับ เมื่อลองกับหูฟังทั่วไปของแอดมิน iBasso ต้องบอกเลยว่าขับได้แต่ไม่ได้ดังมากครับต้องเปิดเกือบสุดเลยถึงจะออกแบบเต็มๆในหูฟังตัวนี้ สำหรับเรื่องเสียงนั้นถือว่าปานกลางไม่ได้เด่นครับเสียงออกแนวใสๆหน่อย เบสมาแบบพอดีนุ่มๆไม่เลวครับ แต่ต้องใช้เสียงดังเกือบสุดถึงจะขับออกมาครบ ครับสายฟังเพลงจริงๆทาง Samsung นั้นไม่ได้เน้นมากเท่าไรแต่ก็ไม่ได้แย่ครับฟังทั่วไปใช้งานได้สบายแต่แน่นอนว่าถ้าใครเน้นมากๆก็อาจจะต้องหาตัวแปลง Type c มาต่อหรือ DAC แยกกันไปอีกทีนะครับ

SPEAKER

ลำโพงตัวนี้มาพร้อมกับลำโพงคู่พัฒนาขึ้นจากรุ่นก่อนและแยกเสียงซ้ายขวาได้ดีครับเรื่องของมิติมีมาคล้ายๆกับตัว S9+ แต่เสียงเหมือนกับจะดังขึ้นแน่นอนว่ารองรับ Dolby atmos ด้วยในรุ่นนี้สำหรับเรื่องเสียงนั้นจะเป็นยังไงไปรับฟังกันได้เลยครับต้องบอกว่าเป็นอีกรุ่นที่เสียงลำโพงทำได้ดี แยกซ้ายขวาเวลาเล่นเกมส์ได้ชัดและดีพอสมควรเลย

GPS

ในการจับสัญญาณ GPS ทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆแน่นอนจากการใช้งานยังไม่เจอปัญหาครับสำหรับการนำทางและการใช้แอพทดสอบทำได้ไวและแม่น การใช้แบตเมื่อเปิดนำทางหนักๆก็ถือว่าอึดพอสมควรครับตัวแบตไม่ไหลมากเท่าไรและ จากการทดสอบหลังเปิดแอพนั้นใช้เวลาไม่นานเลยจับได้ทั้งหมด 28 ดวง จาก 29ดวง ถือว่าใช้นำทางได้สบายเลย

BATTERY

แบตตัวนี้จักหนักจัดเต็มมาให้ 4000 และชูสโลแกนว่า All Day เลยทีเดียวครับแน่นอนทุกคนอาจจะคาดหวังว่าแบตต้องอึดมากแน่นอนแต่จากที่ใช้งานจริงแอดมินพบว่ามันไม่ได้อึดแบบขนาดนั้นแต่ก็ถือว่าดีกว่าเดิม จากการใช้งานทั่วไป แอดมินเปิดจอ QHD และใช้ปากกาถ่ายรูปนำทางแบบคนทั่วไปใช้ไปกันนะครับ แบตอยู่ได้ทั้งหมด 13 ชม และหน้าจอเปิดไปทั้งหมด 3-4 ชั่วโมง ถือว่าอึดกว่าเดิมแต่ไม่ได้มากแบบที่คิดไว้นะครับสำหรับรุ่นนี้

CAMERA

สำหรับตัวกล้องหน้าตาก็คล้ายเดิมครับแต่ครั้งนี้พิเศษหรือมีการนำ Ai มาใช้งานทำให้มันสามารถจับซีนได้ว่าภาพที่เราถ่ายนั้นเป็นอะไรและทำให้มีการปรับสีให้นิดหน่อยครับ  กล้องหลังคู่ความละเอียด 12 MP +12 MP ตัวเดียวกับ ปรับค่ารูรับแสงได้ F/1.5 และ F/2.4 พร้อมระบบกันสั่น Dual OIS  รองรับการถ่ายวีดีโอแบบ Super Slow motion 960 fps ที่ความละเอียด HD แน่นอนมีการปรับการใช้งานถ่ายได้ไวขึ้นสะดวกขึ้นและนานขึ้นครับ ระบบ Ai จากที่ลองบอกว่าปรับสีได้ไม่เวอร์แต่จับได้ช้ามากๆครับ อันนี้ต้องรอปรับปรุงกันไปแต่คุณภาพกล้องโดยรวมถือว่าดี เราไปชมภาพถ่ายกันเลย ครับว่า AI ทำให้ภาพสวยได้แค่ไหนกัน และมีเทียบให้ดูซักรูปครับ Ai จับว่าเป็นอาหาร

PORTRAIT บางส่วนในการเอาไปถ่ายงานจริงครับ ปรับสีเล็กน้อย และอัลบั้มเต็มๆได้ที่ FACEBOOK

SELFIES 

กล้องหน้า ความละเอียด 8 MP F/1.7 มาพร้อม Autofocus เป็นค่ายที่ยังคงใส่มาให้ครับแอดมินขอชมเชยจริงๆหลายรุ่นได้ตัดมันไปหมดแล้วสำหรับ การโฟกัสในกล้องหน้ายังดีที่ทาง Samsung จัดมาให้พร้อมกับรูรับแสงที่กว้างมากอีกทั้งยังมีพวก AR ให้เล่นแถมด้วยการแต่งหน้าต่างๆครับ ต้องบอกเลยกล้องหน้ายังคงไว้ใจได้และทำได้ดีมาก

VIDEO

ในเรื่องของวีดีโอตัวนี้จัดมาให้ครบครันทั้ง OIS ทั้ง 2 กล้องรวมถึง EIS และการรองรับการถ่ายแบบ 4K 60FPS รวมถึง Superslowmotion 960 fps ที่ใช้งานง่ายขึ้นเยอะเลยทีเดียวต้องบอกว่าใช้สะดวกจริงๆตัวคุณภาพวีดีโอไว้ใจได้ครับรุ่นนี้ แต่มีการกันสั่นตอนก้าวเดินที่จะเห็นจังหวะการสั่นของภาพอยู่นิดหน่อยครับในบางครั้ง เรื่องของเสียงก็ทำได้ดีไม่มีปัญหาอะไรครับ ความนิ่งในแบบ 30 FPS ก็ใช้ได้ดีมากๆเลยแหละไปรับชมวีดีโอกันได้เลยครับผม

SAMSUNG GALAXY NOTE 9 ปรับนิดหน่อยลงตัวขึ้นเยอะ

เป็นการออกรุ่นมาที่ไม่ ว้าว  ไม่มีอะไรหวือหวาเลยครับ ซึ่งการปรับครั้งนี้เหมือนแค่มาแก้จุดแก้ไขจากรุ่นก่อนเท่านั้นอีกทั้งดีไซน์ด้านหลังยังแย่มากในการออกแบบและจัดวางสแกนนิ้วมือ ใครมาจาก S9 / Note 8 อาจจะไม่ต้องขยับเลยก็ได้ครับแตกต่างน้อยมาก แบตก็ไม่ได้อึดแบบที่คิด แต่ ! มันแก้ได้ตรงจุดทำให้การใช้งานลงตัวมากขึ้นทั้งกล้อง ลำโพง ปากกาที่พัฒนาขึ้นใช้งานทั่วไปได้ดีขึ้นครับ และน่าสนใจการอัพเดทในอนาคต หน้าจอที่ดีขึ้น และปากกาหรือตัวเครื่องที่สวยขึ้นครับ อันนี้คนใช้หลายๆคนอาจจะมองว่ามันพัฒนาจนเปลี่ยนได้ไม่เสียหายก็เป็นอีกมุมมองเลยแหละ พร้อมกับมีระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวมาในรุ่นนี้ ซึ่งทำให้ตัวเครื่องเล่นเกมส์ได้ดีขึ้นแบบชัดเจนครับน่าสนใจ

ข้อดี

  • ตัวเครื่องเรื่องของสีและวัสดุทำได้สวยขึ้นงานประกอบดูแข็งแรง
  • หน้าจอทำได้สวยและสว่างที่สุดเช่นเคยในตระกูล Galaxy
  • ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวใช้ได้จริง
  • สแกนม่านตา และ หน้าทำได้ไวครับ
  • กล้องหน้าและหลังไว้ใจได้ใช้งานได้ดี
  • ลำโพงคู่ ดังสะใจและแยกซ้ายขวาชัดเจน
  • ปากกา ใช้งานได้หลากหลาย แต่ยังพัฒนาต่อได้อีก
  • ความจุมีให้เลือกเยอะกว่าเดิม

ข้อสังเกต

  • แบตไม่ได้อึดแบบที่หลายๆคนคิดไว้ครับ
  • ตัวระบบแสกนนิ้วไม่ได้ไวมากนัก และ ตำแหน่งไม่โอเค
  • ระบบ Software UI ของ Samsung ยังเจอบัคอยู่นิดหน่อย อาจจะอัพเดทแก้ได้
  • ปุ่ม BIXBY  ไร้ประโยชน์เช่นเคย

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรีวิวรุ่นต่อไปนั้นจะเป็นรุ่นอะไรอย่าลืมติดตามกันนะครับ ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะงับ ขอขอบคุณทาง SAMSUNG THAILAND สำหรับ Samsung Galaxy Note 9 ในการรีวิวครั้งนี้ครับ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

Review By Nineztr