สวัสดีเพื่อนๆกันอีกครั้งในวันนี้เราจะมา รีวิว กล้องกันบ้างเป็นครั้งแรกสำหรับเว็บเรา ! และเป็นแอดมินน้องใหม่จะมาทำการรีวิวกันให้ชมครับ และได้เพื่อนร่วมงานจาก @THPHOTO มาช่วยอีกแรง….. กล้องตระกูล A7 เป็นกล้องที่หลายๆคนน่าจะรู้จักกันดี เพราะมันสร้างสีสันในวงการกล้องมิเรอร์เลสมาตลอด ทุกอย่างเริ่มจากการที่มันเป็นกล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรมตัวแรกของโลก รุ่น1 จากนั้นมันก็มีกันสั่น5แกนเข้ามาให้ รุ่น2 เวลาผ่านไปคนก็คาดหวังมากขึ้นเรื่อยๆว่ารุ่นที่3มันจะออกมาเป็นยังไง จนเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2018 โซนี่ก็ได้เปิดตัว A7 รุ่น3
กล้อง Mirrorless เซนเซอร์ฟูลเฟรมของ Sony จะมีทั้งหมด 3 ซีรีส์ย่อย ซึ่งวัตถุประสงค์การใช้งานของมันจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงครับ
- A7 เป็นกล้องที่เหมาะเอาไว้ใช้ทำงานทั่วไป เน้นใช้หลากหลายสถานการณ์
- A7R เน้นถ่ายภาพความละเอียดสูง เหมาะไว้ใช้ถ่ายภาพเชิงพาณิชย์ งานโฆษณา
- A7S เหมาะใช้ถ่ายในสภาวะแสงน้อยและงานวิดีโอ
- Sony A7 III ใช้เซนเซอร์ Exmor R CMOS ขนาด Full-Frame ครับ สิ่งที่เราจะได้จากฟูลเฟรมก็คือ Dynamic Range ดีกว่า สามารถนำไฟล์มาตกแต่งได้มากยิ่งขึ้น
ส่วน Dynamic Range ของเซนเซอร์ใหม่นี้ ทาง Sony เคลมว่าอยู่ที่ 15-Stop ดึงภาพกันได้อย่างเต็มที่เลย สายขุดน่าจะถูกใจกันเป็นพิเศษ
ความละเอียดที่ใส่เข้ามาคือ 24.2 ล้านพิกเซล จะเอาไปถ่ายเล่น หรือ จะเอาไปรับงานทั่วไปก็โอเค ความละเอียดเท่านี้ทำให้ไฟล์ภาพมันไม่ใหญ่มากเซนเซอร์ทำงานร่วมกับระบบประมวลผล Bionz X ซึ่งทำให้การประมวลผลข้อมูลต่างๆทำได้เร็วขึ้นมาก
Shutter : มีทั้งชัตเตอร์แบบปกติ(Mechanic)และแบบไฟฟ้า(Electronic) แน่นอนว่ามี Silent Shooting มาให้ใช้งาน ใช้ถ่ายภาพแบบไร้เสียงรบกวน
RAW FILE
ไฟล์ RAW ของกล้อง Sony A7 III จัดว่าดึงสนุกเลย มีอิสระในการแต่งภาพ สามารถดึงสภาพแสงที่แย่ให้ออกมาใช้ได้เลยครับ
การเปิดรายละเอียดส่วนมืดก็ทำได้ดี อย่างภาพข้างล่างที่ดึงรายละเอียดส่วนที่มืดออกมา
*** ไฟล์ RAW จะมีแบบ Uncompressed ให้เลือกด้วย แต่โดนทั่วไปอาจจะไม่ได้ใช้กัน เพราะมันเปลืองพื้นที่บันทึกไฟล์พอสมควร
กล้องตัวนี้มีกันสั่น 5 แกน เริ่มมีมาตั้งแต่รุ่น2แล้ว จากรุ่นก่อนที่ว่าดีมากแล้ว ในรุ่นนี้ดีมากยิ่งขึ้นจากรูปที่จะมาให้ดูคือถือด้วย speed 2 วิ เป็นเวลาเกือบ 2 วินาที
ด้วยความที่ Sony A7 III มันใช้เซนเซอร์แบบ Back-Illuminated ทำให้มันสามารถจัดการ Noise ได้ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งสามารถดันได้สูงมากครับ หลายแสนเลย แต่เราจริงๆนั้นขอแค่ 12800-51200 เนียนๆก็เด็ดแล้วนั้นเอง
ปุ่มต่างๆและการควบคุม การวางปุ่มต่างๆไม่ได้หนีจากรุ่นเดิมมากครับ การปรับค่าเบสิกต่างๆ ทั้งความเร็วชัตเตอร์ รูรับแสง หรือISO ก็ใช้เพียงนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ขวาเท่านั้น ด้านบนนอกจากปุ่มชัตเตอร์ ยังมี Dial ปรับเมนู ปุ่ม Custom 2 ปุ่ม และ Dial ปรับ EV
ส่วนด้านหลังจะคล้ายๆเดิมครับ แต่ปุ่มวิดีโอย้ายจากด้านขวาสุดมาอยู่ตรงกลาง ทำให้เราสามารถกดใช้งานได้ด้วยนิ้วโป้งง่ายขึ้น
นอกจากนี้ยังเพิ่มจอยสติ๊ก เผื่อใครอยากจะใช้ปรับโฟกัส ส่วนตัวเราถ่ายทั่วๆไปเลยไม่ค่อยได้ใช้ เพราะ AF-C มันค่อนข้างแม่นอยู่แล้ว แล้วก็พอร์ตเชื่อมต่อที่ให้มาครบกับการใช้งาน
Dual Card Slot กล้องตัวนี้เพิ่มช่อง SD Card ให้เป็น 2 ช่อง จากรุ่นก่อนๆที่มีช่องเดียวครับ ซึ่งมันช่วยให้เราจัดการไฟล์ได้เป็นระบบระเบียบมากยิ่งขึ้น เราสามารถบันทึก RAW กับ JPEG แยกกันคนละการ์ดได้ หรือจะแยกวิดีโอกับภาพนิ่งไว้คนละการ์ดก็ได้เช่นกัน
แบตเตอรี่เป็นซีรีส์ใหม่ครับ(ซีรีส์ Z) โซนี่เคลมว่าชาร์จแบตเต็มๆ1ครั้งสามารถใช้ถ่ายได้ 710 ภาพ แต่เท่าที่ลองมาถ่ายรัวๆไป 800–900 แบตก็ยังลดไปไม่มากเลย
VDO
มี 4K ให้ใช้งาน ซึ่งลักษณะการทำงานของเค้าคือจะถ่ายมาเป็น 6K ก่อนแล้วย่อลงมาให้เหลือ 4K ครับ(Oversampling) ให้ดีเทลที่ดี ให้ภาพเต็มเฟรมและไม่ต้องครอปภาพ APS-C เหมือนกล้องบางตัว 4K นี่ไม่ใช่ 4K ธรรมดา แต่เป็น 4K HDR ซึ่งจะให้รายละเอียดในพื้นที่ที่ระดับความสว่างต่างกันได้ใกล้เคียงกับที่ตาคนเราเห็นมากขึ้นกล้องมี S-log3 ให้ใช้งาน(ISOเริ่มที่800) สายวิดีโอที่ซีเรียสหน่อยก็สามารถที่จะเอาผลงานวิดีโอไปทำ Color Grading ได้ยืดหยุ่น และกล้องยังสามารถถ่าย Full HD ที่ 120 fps ให้เราเอาฟุตเทจไปทำสโลว์โมชั่นได้
หน้าจอสามารถพับขึ้นลงได้ สะดวกเวลาต้องถ่ายมุมช้อนหรือมุมกด มีระบบทัชสกรีนเพิ่มเข้ามาให้ สามารถกดที่หน้าจอเพื่อเลื่อนจุดโฟกัสได้แม้จะใช้ช่องมองภาพอยู่ บอดี้สัมผัสแล้วรู้สึกแข็งแรงดี เนื่องจากมีการใช้วัสดุที่เป็นแมกนีเซียมอัลลอย
A7R III น้ำหนักอยู่ที่ 650 กรัม เทียบ A7 II แล้วจะหนักกว่าที่ 51 กรัม ซึ่งมันก็มาจากแบตเตอรี่ใหม่ที่หนักขึ้น บอดี้ ราคา 68,990 บาท บอดี้พร้อมเลนส์คิต 28–70mm ราคา 74,990 บาท
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง SONY A7III + 28-70 ครับผม
SONY A7 III MIRRORLESS FULLFRAME ที่ลงตัวที่สุดในตอนนี้ !
แน่นอนว่า SONY ได้เดินมาถูกทางและทำได้ดีมากทั้งเรื่องของคุณภาพและฟีเจอร์ในการใช้งานรวมถึงการออกแบบมันลงตัวไปหมดทุกอย่าง ยิ่งคุณภาพไฟล์เป็นจุดเด่นมากๆในตระกูลนี้ทำให้มันคือที่สุดแล้วในตอนนี้สำหรับกล้อง Fullframe Mirrorless ในเรทราคาประมาณนี้ถือว่าดีงามมากครับ ซึ่งเลนส์ในรีวิวนั้นเป็นเลนส์ติดกล้อง แน่นอนมันเน้นใช้งานสะดวกแต่ถ้าภาพที่จริงจังมากขึ้นแนะนำลองหาเลนส์ G master มา หรือถ้างบไม่มากไป Tamron ก็อีกทางเลือกได้เช่นกันครับ
ข้อดี
- Dynamic Range ดี ให้อิสระในการแต่งไฟล์ RAW
- มี Silent Shooting ซึ่งสะดวกมากสำหรับการถ่ายงานที่เป็นพิธีที่ต้องใช้ความเงียบ
- กันสั่นในรุ่นก่อนว่าดีแล้ว พอมาในรุ่นนี้ดียิ่งกว่า
- รูปทรงออกแบบมาจับได้ให้จับได้กระชับมือมากยิ่งขึ้น
- ใช้จอยสติ๊กหรือการแตะหน้าจอเพื่อควบคุมจุดโฟกัสได้
- แบตเตอรี่อึดที่สุดสำหรับกล้องมิเรอร์เลส ทั่วๆ ไปมาก
- มีช่องเสียบ SD Card 2 ช่อง
ข้อสังเกต
- ควรใช้ SD Card แบบ UHS-II เพื่อให้ใช้งานกล้องตัวนี้ได้แบบเต็มประสิทธิภาพ แต่มันจะมีราคาค่อนข้างแพง
- ไม่มี Applications ในกล้องให้ใช้แล้ว
สำหรับรีวิวนี้ เป็นครั้งแรกที่เราจะรีวิวกล้องสำหรับเพจเราครับ ยังไงมีข้อผิดพลาดหรือปรับปรุงยังไงแจ้งได้เลยทางเราจะปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นครับและครั้งนี้เป็น แอดมิน อีกท่าน ซึ่งเป็น น้องใหม่ ที่เข้ามาร่วมเขียนยังไงมีข้อผิดพลาดต้อง ขออภัย มา ณ ที่นี้ไว้ด้วยนะครับผม และ ต้องขอขอบคุณทาง Sony ที่ให้ทาง Sony A7 มาสำหรับการรีวิวครับ