Sony Group Corporation เผยผลประกอบการไตรมาสล่าสุด (จบไตรมาสวันที่ 30 กันยายน) ว่าในช่วงเวลาดังกล่าวทางบริษัทได้ขายเครื่องเล่นเกม PlayStation 5 เครื่องที่ 25 ล้าน (นับตั้งแต่ที่เริ่มผลิตมา) ออกแล้ว
โดยในเดือนกรกฎาคม – กันยายน Sony จำหน่ายเครื่อง PS5 ไปราว 3.3 ล้านเครื่อง และคาดการณ์ว่าจะขายได้ทั้งหมดราว 18 ล้านเครื่องในปี 2022 เพิ่มขึ้นจาก 11.5 ล้านเครื่องในปี 2021 ราว 56%
นอกจากนั้นในช่วงเวลาดังกล่าวมีผู้สมัครสมาชิก PlayStation Plus ประมาณ 45.4 ล้านราย ซึ่งลดลง 1.9 ล้านรายจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ส่วนภาคบริการที่รวมทั้ง PlayStation Plus และ PlayStation Network (PSN) สร้างรายได้ให้แก่ทางบริษัทราว 1.17 แสนล้านเยน (ราว2.9หมื่นล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 17%
รายได้รวมในไตรมาสที่ผ่านมาของทางบริษัทอยู่ที่ 7.27 แสนล้านเยน (ราว1.8แสนล้านบาท) ซึ่งส่วนสำคัญมาจากการพุ่งขึ้นของราคา PS5 ในเดือนสิงหาคม
แต่แม้ว่ารายได้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นกำไรของบริษัทกลับลดลง 49% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เพราะทาง Sony ได้ลงทุนไปกับการควบรวมกิจการของสตูดิโอผลิตเกมอย่าง Bungie ด้วยเงิน 3.6 พันล้าน$ (ราว1.3แสนล้านบาท) รวมทั้งมีค่าพัฒนาเกมที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง