ยอดขายรถ SUV เติบโตมากในปี 2022 ทั้งรถ SUV ที่เป็นรถ EV และรถสันดาป แต่ถึงกระนั้นรถ SUV ไม่ว่าจะใช้พลังงานอะไรก็อาจนำมาซึ่งปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มากกว่ารถใช้งานทั่วไปประเภทอื่นๆ
รถ SUV ในปี 2022 มียอดขายเติบโตขึ้นในปีที่แล้ว 3% ซึ่งรถ SUV คิดเป็น 46% ของรถยนต์ทุกประเภททั่วโลก ในขณะที่ยอดขายรถยนต์โดยรวมลดลง 0.5% จากปีก่อนหน้า
สำหรับปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากรถ SUV แบบสันดาปก็เป็นสิ่งที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่ามันใช้พลังงานมากกว่ารถยนต์ขนาดกลางทั่วไป โดยรถ SUV กินน้ำมันมากกว่าถึง 20% และรถ SUV ทั่วโลกใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นถึง 5 แสนบาร์เรลต่อวันในปี 2022 ในขณะที่รถที่ไม่ใช่ SUV ใช้น้ำมันปริมาณพอๆกับปีก่อนหน้า
ทางด้านของรถ SUV แบบ EV ก็ใช้พลังงานไฟฟ้าเยอะกว่าเพราะมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่า แต่ถึงกระนั้นเรื่องการใช้พลังงานถือว่าเป็นเรื่องเล็กเมื่อเทียบกับปัญหาที่โลกเรามีแนวโน้มขาดแคลนวัตถุดิบในการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน
เพราะรถ EV ใช้ทรัพยากรสินแร่มากกว่ารถทั่วไปถึง 6 เท่า และรถ SUV ที่มีขนาดใหญ่ก็ใช้ทรัพยากรในผลิตมากกว่ารถประเภทอื่นๆ
ทั้งนี้นอกจากจะทำให้ลิเธียมที่ใช้ผลิตแบตเตอรี่ขาดแคลนแล้ว การที่ความต้องการมากขึ้นอาจนำมาซึ่งความเปราะบางของห่วงโซ่อุปทาน เพราะแร่ลิเธียมดิบเป็นแร่ที่กระจุกตัวอยู่ไม่กี่ที่บนโลกเท่านั้น หากแหล่งผลิตเกิดปัญหาเศรษฐกิจหรือปัญหาการเมืองขึ้น ก็จะกระทบกับห่วงโซ่อุปทานเป็นวงกว้าง
นอกจากนั้นการที่รถ EV มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 60% ในปี 2022 ก็อาจทำให้ปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบรุนแรงขึ้นอีก เพราะยอดขายรถ SUV แบบ EV คิดเป็นมากกว่าครึ่งหนึ่งของยอดขายรถ EV ทั้งหมด รวมทั้งรถยนต์ EV ที่มีให้เลือกมากกว่า 400 รุ่นทั่วโลก ราว 55% ของจำนวนดังกล่าวเป็นรถ SUV
และนอกจากการขาดแคลนวัตถุดิบแล้ว รถ SUV ก็ยังสร้างปัญหาอื่นๆ ให้กับสิ่งแวดล้อมด้วย เพราะ รถ EV สร้างมลภาวะทางอากาศด้วยน้ำหนักที่มากของมัน ทำให้ยาง เบรค ถนนสึกกร่อนเร็วขึ้นจนฟุ้งกระจายทำให้คุณภาพอากาศแย่ลง
รถ EV ทั่วไปก็มีน้ำหนักมากกว่ารถประเภทเดียวกันแบบสันดาปแล้ว ยิ่งไปไม่ต้องพูดถึงรถ SUV แบบ EV ที่มีน้ำหนักมากเข้าไปอีก ทำให้ปัญหาดังกล่าวถูกซ้ำเติมให้รุนแรงขึ้น
ด้วยเหตุนี้เอง การที่ผู้ผลิตรถยนต์และผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการใช้รถขนาดกลางทั่วไป นอกจากจะลดปัญหาขาดแคลนทรัพยากรแล้ว ก็ยังทำให้คุณภาพอากาศดีขึ้นด้วย
