ผู้ขับขี่ Tesla ขับรถชนสุนัขตัวหนึ่งที่เดินตัดหน้ารถทำให้มันเสียชีวิตในทันที โดยตัวของคนขับระบุว่าตนใช้งานระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ (FSD) เวอร์ชั่น Beta อยู่ จึงกลายเป็นประเด็นที่มีการตั้งคำถามต่อความปลอดภัยของระบบ FSD ได้
ซึ่งระบบ FSD ทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้ขับขี่ในการขับขี่รถ Tesla โดยที่ผู้ขับไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลยนอกจากจับพวงมาลัยและจดจ่อกับสภาพแวดล้อมบนถนนอยู่ตลอดเวลา
ด้วยเหตุนี้ตามหลักการแล้วผู้ขับขี่จึงมีหน้าที่รับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นจากการขับรถของตัวเองตลอดเวลาเมื่อเกิดอุบัติเหตุที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ขึ้น
ดังกรณีข้างต้นที่ผู้ใช้ Tesla ขับรถชนสุนัขจนเสียชีวิตในขณะที่ใช้งาน FSD อยู่ จากคลิปวิดิโอที่บันทึกเหตุการณ์ไว้แสดงให้เห็นว่าผู้ขับขี่เห็นสุนัขวิ่งมาบนถนนตั้งแต่ระยะไกลแล้ว ตามปกติแล้วจะต้องชะลอรถเพื่อป้องกันหรือบรรเทาความรุนแรงอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น แต่ในกรณีนี้ผู้ขับขี่ไม่ได้ตอบสนองแต่อย่างใดปล่อยให้รถวิ่งด้วยความเร็วเท่าเดิมจนชนสุนัขเสียชีวิต
Here is the dash cam view of what happened. pic.twitter.com/HxTPBDl1JQ
— Tydirium (@TeslaUberRide) June 8, 2023
แม้ว่าความรับผิดชอบจะตกอยู่ที่ผู้ขับขี่ แต่เขาก็อ้างถึงประเด็นที่ว่าระบบ FSD เวอร์ชั่น Beta ไม่สามารถตรวจจับหรือไม่ตอบสนองต่อสุนัขที่วิ่งมาบนถนนทำให้เกิดอุบัติเหตุ เขาจึงตั้งสติกลับมาได้หลังจากที่รถชนสุนัขไปแล้วนั่นเอง
นอกจากนี้ผู้ขับขี่ Tesla ในเหตุการณ์ดังกล่าวเผยว่าเขาเห็นสุนัขมาตั้งแต่ระยะไกลแล้วแต่ไม่คิดว่ามันจะวิ่งลงมาบนถนน เพราะมันไม่ใช่พฤติกรรมปกติของสุนัขในชนบท เขาจึงเห็นว่ามันไม่สมเหตุสมผลที่จะต้องชะลอการขับขี่ทุกครั้งที่เห็นสุนัข
Initially the damage did not seem severe. But I added a spin to the dog at 64 mph so his body spun around and his skull put a dent in my rocker just below the door which was an expensive repair. pic.twitter.com/sbSzfpd7ec
— Tydirium (@TeslaUberRide) June 8, 2023
อย่างไรก็ดีหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นเขาก็ได้ลงรถไปดูอาการของสุนัขก็พบว่ามันเสียชีวิตไปแล้ว และได้ขอโทษต่อครอบครัวของเจ้าของสุนัขตัวดังกล่าวแล้ว