Mercedes-Benz ได้เปิดตัวในประเทศไทยในรุ่น E-Class ตัวถังรหัส W213 ที่เป็นรุ่น การปรับเปลี่ยนหน้าตา Facelift นั้นเองครับ เรียกได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรหลากหลายอย่างมากจริงๆแม้จะเป็น Minorchange ปรับหน้าตา ปรับท้าย แต่ค่ายนี้ลงทุนเปลี่ยนหน้าใหม่ทั้งหมด เปลี่ยนไฟท้ายใหม่ทั้งหมดด้วยเช่นกันถือว่าจัดเต็มพอสมควร และในด้านในก็มีการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่างรวมทั้งหน้าจอ การควบคุมลำโพงต่างๆ ถึงตัวพวงมาลัยก็ได้รับรูปทรงใหม่ด้วยเช่นกัน และทางด้านขุมพลังนั้นก็จะมีเหมือนเดิมทั้งเรื่องของ ดีเซล และ เบนซิน + มอเตอร์ไฟฟ้านั้นเองครับ ส่วนทางด้านงานออกแบบจะเป็นอย่างไร รวมถึงการขับขี่ของ E Class ตัวนี้เดี๋ยวไปอ่านกันครับ
แน่นอนว่าเนื่องจากเป็นรุ่นปรับเปลี่ยนหน้าตาทำให้เรื่องของพละกำลังนั้นไม่ได้หนีจากเดิมมากนักครับ แต่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงหน้าตา ฟีเจอร์ในหลายๆรุ่นย่อยซะมากกว่า โดยที่สำคัญคือตัวเริ่มต้น E 300 e Avantgarde Plug in Hybrid เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ มอเตอร์ไฟฟ้าในระบบปลั๊กอินไฮบริด นั้นจะได้รับดีไซน์ใหม่ทั้งหมด และ ล้อ 18 นิ้วลายใหม่ พวงมาลัยแบบใหม่รวมถึงมีระบบ Keyless Go และ ฝาท้ายไฟฟ้า รวมถึง Blind Spot Assist แต่ตัดไฟสูง อัตโนมัติออกไปครับ ส่วนตัว ดีเซล E 220 d AMG Sport เครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ชุดแต่ง AMG Sport อันนี้ถือว่าเปลี่ยนเยอะ กระจังหน้าแบบ AMG รวมถึงชุดแต่งรอบคัน ล้อขนาด 19 นิ้ว AMG ใหญ่ขึ้น ดีไซน์พวงมาลัยใหม่ ระบบ KEYLESS-GO และ ฝาท้ายไฟฟ้า รวมถึงได้ หน้าปัดแบบ 12.3 นิ้วเต็มๆ และ Apple Carplay – Android Auto พร้อมใช้งาน รวมถึง Blind Spot และตัวเทพสุด E 300 e AMG Dynamic Plug in Hybrid เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ มอเตอร์ไฟฟ้าในระบบปลั๊กอินไฮบริด ชุดแต่ง AMG Dynamic นั้นเองครับ เปลี่ยนหน้าตาใหม่ทั้งหมด พวงมาลัยใหม่ ล้ออัลลอย AMG 10-Spoke ขนาด 19 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ และ ตัดระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติรักษาระยะห่าง Distance PILOT DISTRONIC หรือ Adaptive Cruise ไปแล้วนั้นเอง แอบเสียดายมากๆ
โดยทางด้านราคานั้น E Class ทั้ง 3 รุ่นย่อยประกอบไทยเปิดราคามาทั้งหมด 3 รุ่นย่อยเริ่มต้น 3.19 ล้านบาท และรุ่นเทพสุดคือตัว E 300e AMG นั้นเองอยู่ที่ 3.7 ล้านบาทครับ
• Mercedes-Benz E 300 e Avantgarde ราคา 3,190,000 บาท
• Mercedes-Benz E 220 d AMG Sport ราคา 3,540,000 บาท
• Mercedes-Benz E 300 e AMG Dynamic ราคา 3,770,000 บาท
EXTERIOR
งานออกแบบภายนอกรุ่นนี้มีการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดในด้านหน้า ล้อ และ ด้านหลังเรียกได้ว่าเปลี่ยนครั้งใหญ่ครับจนหลายๆคนคิดว่าะเป็น Model Change ก็เป็นไปได้ โดยในรุ่นที่เราได้มานั้นจะเป็นตัว Avantgarde ตัวเริ่มต้นที่ราคาถูกที่สุดนั้นเอง เลยทำให้เรื่องของหน้าตาจะไม่ได้เป็นแบบ AMG และไม่ได้มีความดุดันมากเท่าไรนัก และยิ่งไปเทียบกับรุ่นก่อนหน้าอาจจะดูแปลกตาไปกว่าเดิมส่วนตัวแอบชอบหน้าตาแบบเดิมมากกว่า เพราะว่ากระจังหน้าตัวนี้ไม่ค่อยเข้ากับตัวรถเท่าไรนักครับ แต่ส่วนขอบกันชนล่างแบบใหม่ แต่ลายล้อนั้นเหมือนเดิม รวมถึงในด้านท้ายตัวรถ
ส่วนที่สวยที่สุดนั้นคงจะเป็นในด้านท้ายตัวรถครับ แน่นอนว่าถ้ามองด้านข้างก็เห็นความแตกต่างในเรื่องของทรงกระจังหน้า และเส้นสายไฟท้าย แต่บอดี้นั้นยังคงเป็นแบบเดิม รวมถึงตัวล้อด้วยเช่นกันครับ แต่ในด้านท้ายนั้นเปลี่ยนไฟท้ายใหม่ทั้งหมดพร้อมกับ ท่อไอเสียคู่ และเส้นสายตัดลายโครเมี่ยมเพิ่มความหรูหรา ซึ่งจะแตกต่างกับตัว AMG ส่วนไฟท้ายแบบใหม่ ยาวไฟถึงป้ายทะเบียนทำให้ท้ายรถมันมีความเพรียวบาง สปอร์ตมากขึ้นด้วยเช่นกันครับ ส่วนตัวบอกเลยว่าด้านท้ายนั้นสวยและดูดีขึ้น แต่ในด้านหน้าแอบชอบตัวเดิม หรือถ้าหน้าใหม่ตัว AMG จะทำได้ลงตัว
ท้ายนั้นจะมีการตกแต่งเพิ่มเติมแน่นอนว่าในการเปลี่ยนไฟท้ายใหม่ทำให้ตัวรถดูเป็นคนละกันกันอย่างสิ้นเชิง รวมถึงในด้านล่างแม้จะไม่ได้เปลี่ยนงานออกแบบส่วนกันชนล่างเท่าไร มีรูปทรงการตกแต่งเหมือนเดิมแต่การเปลี่ยนไฟท้ายก็เสริมให้ตัวรถดูดีขึ้นด้วยเช่นกัน และในเรื่องของที่ชาร์จนั้นจะเป็นด้านหลังรองรับ type 2 ปกติเลยนั้นเองครับ ส่วนในด้านหน้าแน่นนอว่า ไฟหน้าโดนลดไฟเหลือไฟหน้าแบบธรรมดาที่สุด ไม่ใช่ projector อะไรครับและเส้นสาย DRL นั้นเป็นเส้นเล็กๆเหมือนเดิม ถ้ามองเรื่องดีเทล รายละเอียดตัวเก่าไฟสวยและดีกว่าเยอะ รวมถึงกระจังหน้าแอบแปลกๆในเรื่องของงานออกแบบ เส้นสายรูปทรงดูไม่ลงตัวเท่าไรนัก แต่ส่วนโครเมี่ยมชายล่างนั้นเด่นอย่างมาก
ไฟหน้านั้นจะเป็นการเปลี่ยนงานออกแบบใหม่ทั้งหมดกลับไปรุ่นธรรมดาไม่ใช่เลนส์ projector รวมถึง ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive High Beam Assist Plus นั้นได้หายไปแล้วกลายเป็นไฟธรรมดาทั่วไป บอกเลยว่าส่วนนี้ไม่ค่อยถูกใจเท่าไรนักยิ่งถ้าเทียบกับคู่แข่งในเรื่องของความสวยและการใช้งาน แต่ไฟท้ายถือว่าสวยและดูดี รายละเอียดไฟท้ายเวลาเบรก หรือเปิดไฟเลี้ยวนั้นสวยงามไปคล้ายกับรุ่นพี่ S ได้เลยและทรงดูเพรียวบางมากขึ้นเยอะครับ
กระจังหน้าพยายามเสริมเส้นแนวนอนเข้ามาแต่ด้วยรูปทรงของกระจังหน้าแอบไม่ค่อยลงตัวเท่าไร จะสปอร์ตก็ไม่สุด จะหรูก็ไม่สุดครับ จริงๆเอาตราดาวแบบ บนฝากระโปรงมาน่าจะลงตัวกว่านี้ เลยอยู่กลางๆระหว่าง สปอร์ต กับ หรูนั้นเอง ส่วนชิ้นชายล่างกันชนอะไรนั้นดูทรงสวยคล้ายเดิม พร้อมกับโครเมี่ยมขนาดใหญ่ทำให้หน้ารถดูเด่นและสวยหรูและในส่วนด้านหลังก็จะเป็นปลายท่อออกจริงครับ แต่ก็ไม่ได้เชื่อมติดเป็นปกติ มีการตัดโครเมี่ยมเพิ่มเข้ามาเช่นเดิม
INTERIOR
ภายในนั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปใช้งานระบบ MBUX ทั้งหมดแน่นอนว่าจะเปลี่ยนหลักๆคือหน้าจอรองรับสัมผัส ระบบควบคุมเป็น Touchpad และไม่มีแป้นหมุน รวมถึง ตัดนาฬิกาเข็มออกไป และแน่นอนว่าพวงมาลัยพัฒนาดีไซน์ใหม่เป็นจุดหลักๆที่เปลี่ยนจากรุ่นเดิมครับ และทางด้านลำโพงอะไรต่างๆนั้นยังคงเป็นสีดำทั้งหมดไม่ใช่แบบรุ่น AMG
จะเห็นว่าคอนโซลกลางนั้นเป็นสีดำเงา ผสมกับสีเงินด้านๆทำให้ดูสปอร์ตมากขึ้นแต่ก็ไม่ได้มีลายไม้อะไรเสริมเข้ามาแล้วในรุ่นนี้ และการเปลี่ยนมาใช้งานระบบใหม่ทำให้แพงควบคุมส่วนล่างนั้นเป็นแบบสัมผัสทั้งหมดแบบใหม่ และหน้าจอก็รองรับด้วยเช่นกัน ลำโพงเป็นแบบธรรมดา สีดำไม่ใช่ burmaster แบบรุ่นพี่ครับ แต่ที่ชอบมากๆคือในเรื่องของพวงมาลัยแม้ดีไซน์หน้าตาอาจจะแปลกๆ แต่ก็เป็นการพัฒนา Touchpad จากเดิมเป็นสี่เหลี่ยม แต่ครั้งนี้เป็นระบบสัมผัสทั้งหมดแล้วกลมกลืนไปในตัวเลยทำให้เรา ใช้นิ้วลากแบบเดิมได้ในปุ่ม Ok เลื่อนเหมือนตัวเดิมได้เลยแต่ดีไซน์ดูเนียนตามากขึ้นนั้นเองครับรวมถึง เพิ่ม / ลด เสียงนั้นเป็นแบบระบบสัมผัสได้ไถนิ้วขึ้นลงได้ทันทีเลยครับ
DRIVING
การขับขี่แน่นอนว่ารุ่นนี้การเปลี่ยนแปลงในเรื่องของการขับขี่ไม่ได้เปลี่ยนมากนักครับถ้าเทียบกับรุ่นเดิมตัว e300e ก่อนหน้าครับ การขับขี่ ช่วงล่างต่างๆรวมถึงอัตราเร่งนั้นมาดี แต่ช่วงล่าง และ การควบคุมก็ยังคงเป็นสไตล์รถบ้านมากกว่า ซึ่งถ้าใครเคยลองตัว 220d แน่นอนว่าตัวนั้นช่วงล่างอะไรจะแน่นและเฟิร์มกว่าแบบชัดเจน แต่ถ้ามองอัตราเร่งพวกนี้ 300e กลับทำได้ดีกว่าด้วยพลังงานไฟฟ้าเข้ามาช่วย แต่กลับกันอัตราเร่งมันดี ดึงโหดก็จริงแต่ช่วงล่างและการควบคุมกลับไม่ได้ไปตามใจเท่าไรนัก การขับความเร็วสูงนั้นมีอาการย้วยและโยนได้ชัดกว่าตัว 220d แต่ถ้ามองเทียบไปยัง cls300d ตัวนั้นต้องบอกเลยว่า 300e ตัวนี้ขับได้มั่นใจกว่าในความเร็วสูง อาจจะด้วยมีแบตมาช่วยดึงจุดศูนย์ถ่วงให้ต่ำและขนาดความยาวอะไรไม่ได้มากเท่า ทำให้ถ้ามองความกระฉับกระเฉง นั้นตัว 220d น่าจะทำได้ดีสุด และตามมาด้วย 300e และ CLS300d รั้งท้ายที่สุด แต่ถ้าอัตราเร่ง ความสนุกแรงดึงยังไง มอเตอร์ทำได้ดีกว่า
การควบคุม การเก็บเสียงอะไรทั้งหลายนั้นจะเป็นเหมือนกับตัวก่อนหน้าไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้มีผลต่อการขับขี่มากนักครับ แน่นอนว่าจะเป็นการเพิ่มฟีเจอร์ ระบบกุญแจ KEYLESS-GO เพิ่ม ฝาท้าย เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้าเพิ่ม ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในมุมอับสายตา Blind Spot Assist ที่เสริมเข้ามา แต่ถ้าการขับขี่ไปทดลองขับตัวก่อนหน้าได้แทบจะเหมือนกันในความรู้สึกนั้นเองครับ ใช้งานเครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 211 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 122 แรงม้า 440 นิวตันเมตรเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-Tronic ขับเคลื่อนล้อหลัง แบตเตอรี่ความจุ 13.5 kWh รองรับการชาร์จไฟเข้าเช่นเดิม แน่นอนว่าถ้ามองเทียบกับราคาได้ขับ PHEV กับราคาและ แบรนด์นี้ในรุ่นเริ่มต้นก็ถือว่าเพียงพอต่อการขับขี่ทั่วไป ให้พ่อ แม่ขับไปไหนมาไหนเน้นในเรื่องของ แบรนด์ และ นั่งสบาย นุ่ม ไม่ต้องสปอร์ตอะไรมากนักตัวนี้ออกมาตอบโจทย์ได้ทันที ไม่ต้องเน้นทำความเร็วสูงไม่ได้ขับโหด ขับในเมืองนุ่มๆ นั่งหลังหลับได้สบายตัวนี้ทำได้ดีแน่นอน
MERCEDES BENZ E300E
หน้าตาเปลี่ยน แต่การขับขี่นั้นยังคงเหมือนเดิม แอบเสียดายไฟหน้า และดีไซน์ด้านหน้าไปเล็กน้อย แต่ด้านหลัง และภายในพวงมาลัยนั้นสวยงามขึ้นชัดเจน ในราคาเริ่มต้น 3.19 ล้านบาท ได้ขับ E-Class ที่มีขนาดใหญ่กำลังดี ช่วงล่างนุ่มนั่งสบาย ได้ระบบ Plug-in แถมยังได้แบรนด์ ตราดาวแบบนี้ทำให้หลายๆคนนั้นหันมามอง ในการใช้งานทั่วไป ขับขี่ในเมือง อยากได้รถใหญ่นั่งได้สบาย ไม่ได้เน้นขับโหดอะไรตัวนี้ทำออกมาตอบโจทย์กลุ่มนี้ได้แน่นอน แต่ถ้าใครสายซิ่ง หรือชอบหน้าตาดุดัน ขับเอง ดูเท่วัยรุ่นกว่าตัวนี้อาจจะไม่ใช่คำตอบครับ จะแนะนำไป 220d AMG หรือ 300e AMG ซะมากกว่าในเรื่องของหน้าตาและช่วงล่าง สเปกที่มาครบมากกว่า แต่ที่เสียดายมากที่สุดคือเรื่องของดีไซน์ และ สเปกไฟหน้าในรุ่นนี้ และรุ่น 220d ที่ไม่สวยและโดนลดสเปกลงไปนั้นเอง แต่ส่วนอื่นๆก็ถือว่าเพียงพอแล้วต่อการใช้งาน รวมถึงได้หน้าตาแบบใหม่ทั้งคันแบบนี้ ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานว่าจะเน้นไปทางด้านไหนอีกทีครับ
สำหรับรีวิวนี้เป็นการทำบทความเกี่ยวกับรถยนต์ หรือ สายยานยนต์ของเรา และถ้าหาก มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ มีข้อเสนอแนะ หรือข้อนำแนะอะไร ยังไงสามารถแจ้งเราได้เสมอเพื่อการปรับปรุงที่ดีขึ้นครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรถรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ จะพยายามจัดหามาให้อ่านกันเยอะๆ ขึ้นเรื่อยๆ ครับ … สำหรับ Techhangout Auto !
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget
By Nineztr