Twitter สั่งแบนการโปรโมทโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มอื่นทั้ง Facebook, Instagram, Mastodon, Truth Social, Tribel, Nostr และ Post ผ่านทวิตเตอร์ ซึ่งรวมไปถึงแปะข้อมูลในคำอธิบายโปรไฟล์ และการทวีตข้อความโปรโมท โดยผู้ที่ฝ่าฝืนข้อบังคับดังกล่าวจะต้องถูกลงโทษโดยการลบข้อความ หรือการระงับบัญชี
แต่แพลตฟอร์มที่ยังสามารถโปรโมทผ่านทวิตเตอร์ได้ตามปกติ ได้แก่ Telegram, TikTok, YouTube, Weibo และ OnlyFans
การแบนดังกล่าวรวมไปถึงการห้ามแปะลิงก์โปรไฟล์ตัวเองในแพลตฟอร์มอื่นอย่าง Facebook หรือ Instagram ลงในข้อมูลโปรไฟล์ในทวิตเตอร์ รวมทั้งห้ามทวีตข้อความบอกให้ผู้ติดตามเข้าไปดูโปรไฟล์ของตัวเองในแพลตฟอร์มอื่น นอกจากนี้การห้ามยังครอบคลุมไปถึงการแปะลิงก์ และการแปะชื่อบัญชีผู้ใช้เฉยๆ ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามการออกนโยบายดังกล่าวของทวิตเตอร์ไม่สอดคล้องกับความต้องการของ Elon Musk เพราะนโยบายของทวิตเตอร์สั่งห้ามการโปรโมทโซเชียลมีเดียอื่นๆไปเลย แต่อีลอนกล่าวว่าสามารถโปรโมทเป็นครั้งคราวได้ แต่ห้ามโพสต์รัวๆที่แสดงถึงการโฆษณาอย่างชัดเจน
นอกจากนั้นทวิตเตอร์ยังอาจสั่งระงับบัญชีที่ตั้งมาเพื่อโปรโมทแพลตฟอร์มอื่นๆ และสั่งห้ามไม่ให้ผู้ใช้งานแปะลิงก์ที่เป็นการย่อหรือรวบรวมลิงก์อย่าง Linktree หรือ Lnk.bio แต่ทั้งนี้ดูเหมือนว่าทวิตเตอร์จะโอเคกับการจ่ายเงินเพื่อโปรโมทแพลตฟอร์มเหล่านี้ (ฟีเจอร์นี้ยังไม่สามารถใช้งานได้ในปัจจุบัน)
ทวิตเตอร์ยังรอบคอบกับนโยบายนี้ เพราะการแบนนั้นรวมไปถึงผู้ใช้งานที่หาวิธีหลบเลี่ยงการตรวจจับ อย่างการลบจุดในลิงก์ การเปลี่ยนตัวอักษร หรือเปลี่ยนภาษาในบางคำของตัวลิงก์ด้วย หรือแม้กระทั่งการใช้ภาพสกรีนช็อตที่มีข้อมูลเหล่านี้ก็ห้ามด้วยเช่นกัน
Jack Dorsey อดีต CEO ของทวิตเตอร์โพสต์ข้อความตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับนโบบายนี้ และแสดงความเห็นว่าไม่สมเหตุสมผลเลย หลังจากที่เขาบริจาคเงินกว่า 245,500$ ให้กบการพัฒนาแพลตฟอร์ม Nostr ซึ่งอยู่ในการแบนของทวิตเตอร์ด้วย