มหาวิทยาลัยของรัฐหลายแห่งทั่วสหรัฐฯ สั่งแบน TikTok ออกจากวิทยาเขตของตัวเอง นโยบายดังกล่าวได้รับแรงบันดาลใจจากคำสั่งของรัฐบางท้องถิ่นที่สั่งแบน TikTok ภายในหน่วยงานของตัวเอง
โดยในปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยในหลายรัฐสั่งแบน TikTok แล้ว ได้แก่ มหาวิทยาลัยในรัฐ Alabama, Arkansas, Florida, Georgia, Idaho, Iowa, Oklahoma, South Dakota และ Texas มหาวิทยาลัยเหล่านั้นบล็อกการเข้าถึงแอป TikTok ผ่าน Wi-Fi ของมหาวิทยาลัย และแบนจากอุปกรณ์ภายในวิทยาเขต
สาเหตุที่ TikTok ถูกสั่งแบนเป็นเพราะความกังวลด้านความเป็นส่วนตัวและความมั่นคงของรัฐซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่แอปดังกล่าวเป็นแอปสัญชาติจีน
ในคำสั่งของรัฐบาลท้องถิ่นที่สั่งแบน TikTok ระบุว่าตัวแอปเก็บข้อมูลจากอุปกรณ์ของผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับเวลา สถานที่ และวิธีการที่ผู้ใช้ทำกิจกรรมบนอินเทอร์เน็ต และอาจส่งมอบข้อมูลที่มีความอ่อนไหวเหล่านั้นให้แก่รัฐบาลจีน
TikTok ถูกเพ่งเล็งจากรัฐบาลท้องถิ่นและรัฐบาลกลางในสหรัฐฯ ดังที่รัฐบาลของโจ ไบเดนได้สั่งแบน TikTok จากอุปกรณ์ที่ใช้ในหน่วยงานรัฐไปเมื่อปลายปีที่แล้ว รวมทั้งผู้กำกับ FBI ได้สั่งให้ระมัดระวังความสามารถในการเก็บข้อมูลผู้ใช้งานของ TikTok เพื่อส่งให้รัฐบาลจีนด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามความกังวลของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มีต่อ TikTok ถือเป็นเรื่องที่มีมูลเพราะ ByteDance บริษัทแม่ TikTok ไม่ได้เปิดเผยเส้นทางการไหลของข้อมูลระหว่างสหรัฐฯ และจีนอย่างโปร่งใส จึงสร้างความกังวลให้แก่ผู้กำหนดนโยบายในสหรัฐฯ ว่าทางบริษัทมีอะไรปิดบังอีกหรือไม่
ทั้งนี้การแบน TikTok จากมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ไม่ได้ส่งผลต่อความนิยมของตัวแอปในหมู่ผู้ใช้งานมากนัก เพราะนักเรียนนักศึกษาสามารถสลับไปใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ต 4G/5G เพื่อหลบเลี่ยงการแบน TikTok ภายในอินเทอร์เน็ตของมหาวิทยาลัยได้อยู่ดี
