รายงานจาก IDC (International Data Corporation) ตลาดอุปกรณ์สวมใส่ (wearable) เติบโตขึ้น 9.9% ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ โดยมียอดส่งมอบสูงถึง 138.4 ล้านยูนิต

ในรายงานระบุว่าอุปกรณ์สวมใส่สำหรับการฟัง (หูฟังทั้งแบบคล้องคอและ TWS) เติบโตขึ้น 26.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งในส่วนนี้คิดเป็น 64.7% ของอุปกรณ์สวมใส่ทั้งหมด

สำหรับอุปกรณ์สวมใส่ข้อมือได้ส่วนแบ่งตลาด 34.7% โดยในส่วนนี้อุปกรณ์ส่วนใหญ่ที่มียอดส่งมอบสูงสุดคือสายรัดข้อมือราคาประหยัดของ Xiaomi แซงหน้าผลิตภัณฑ์จากทั้ง Apple และ Huawei ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้

ความต้องการในตลาดส่วนนี้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงจากสายรัดข้อมือไปเป็นสมาร์ตวอร์ชมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคต้องการอุปกรณ์ที่มีความสามารถหลากหลาย และช่องว่างระหว่างราคาของอุปกรณ์สองประเภทนี้ลดลงเรื่อย ๆ

กลับมาในตลาดอุปกรณ์สวมใส่ในภาพรวม Apple ยังคงครองอันดับหนึ่งยอดส่งมอบสูงที่สุดในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ แม้ว่ายอดขาย Apple Watch จะลดลง 35.3% ในไตรมาสดังกล่าว แต่เนื่องจากความสำเร็จของยอดขายหูฟัง AirPods และ Beats ทำให้ Apple ยังครองบัลลังก์อยู่ได้

Samsung สามารถครองอันดับ 2 ได้ด้วยความสำเร็จจากสมาร์ตวอร์ชตระกูล Galaxy Watch 4 ที่เปลี่ยนจากระบบปฏิบัติการ Tizen ไปเป็น Wear OS นอกจากนั้นทางบริษัทยังมุ่งมั่นให้ธุรกิจเติบโตโดยใช้กลยุทธ์จับคู่ผลิตภัณฑ์ในการวางขาย

อย่างไรก็ดี Xiaomi มียอดส่งมอบลดลงกว่า 23.8% ในไตรมาสที่ผ่านมาเนื่องจากผลิตภัณฑ์เด่นของบริษัทคือสายรัดข้อมือ แต่ความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อสมาร์ตวอร์ชเพิ่มขึ้น ส่วนอันดับที่ 4 คือ Huawei ที่เติบโตขึ้นด้วยความสำเร็จของอุปกรณ์สวมใส่ในการฟัง เนื่องจากสายรัดข้อมือและสมาร์ตวอร์ชรวมกันลดลงราว 5% ในไตรมาสที่ผ่านมา

สำหรับอันดับที่ 5 คือบริษัท Imagine Marketing สัญชาติอินเดียที่ผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ boAt ที่มียอดส่งมอบถึง 7.2% จากยอดส่งมอบทั้งหมดทั่วโลก

นอกจากนั้นตัวเลขยอดขายสมาร์ตวอร์ชที่มีราคาต่ำกว่า 100$ (ประมาณ3,300บาท) มีเท่า ๆ กับสายรัดข้อมือที่เคยครองตลาดในเรทราคาที่ในอดีตแล้ว โดยในส่วนของอุปกรณ์สวมใส่ราคาถูกจากแบรนด์สัญชาติจีนและอินเดียถือว่านำตลาดอยู่ในเรทราคานี้ ส่วน Apple, Huawei และ Samsung ยังคงรักษาตลาดอุปกรณ์ราคาแพงเอาไว้ได้

SOURCE