สมาร์ตโฟนที่คุ้นเคยกันแบรนด์เหล่านั้นมาจาก ประเทศอะไรบ้าง มาทำความรู้จักกัน !

โลกของเทคโนโลยีและการสื่อสารนั้น การพัฒนาอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสาร เพื่อความทันสมัยและตอบสนองความต้องการของมนุษย์ที่ไม่มีวันสิ้นสุด เริ่มตั้งแต่มือถือปุ่มกดจนมาถึงปัจจุบันที่ใช้ระบบสัมผัสหน้าจอและสามารถทำอะไรได้มากมายภายในมือถือเครื่องเดียว จนถูกเรียกชื่อใหม่ในยุคปัจจุบันว่าเป็นสมาร์ตโฟน และตอนนี้กลายเป็นสิ่งสำคัญที่สุดอีกหนึ่งอย่างของพวกเราไปแล้ว หรือเรียกอีกอย่างได้ว่าปัจจัยที่ 5 นั้นเอง แอดจะขอมาเล่าประวัติคร่าว ๆ ของแบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำ ที่เราต่างคุ้นเคยนั้นว่ามีความเป็นมายังไงบ้าง พร้อมกับแนะนำรุ่นสมาร์ตโฟนที่เป็นยอดนิยมของแบรนด์นั้นหนึ่งรุ่นให้เพื่อน ๆ ได้รู้กัน  มาชมกันได้เลยยยย

1. Samsung (ซัมซุง) : ประเทศเกาหลีใต้

Samsung Electronics เป็น บริษัท เกาหลีใต้และเป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือมาก ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยและคุณสมบัติอันชาญฉลาดสมาร์ตโฟนซัมซุงได้รับความนิยมอย่างสูงทั่วโลก ด้วยเทคโนโลยีและคุณสมบัติล่าสุดและใช้งานง่ายทำให้เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมและน่าเชื่อถือที่สุดในโลก ปัจจุบันธุรกิจของซัมซุง แบ่งออกเป็น 4 หน่วยใหญ่ ๆ คือ เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้สำนักงาน โทรศัพท์มือถือ และส่วนประกอบหลัก ๆ ที่ใช้ในการผลิตอุปกรณ์ดิจิตอลที่เป็นนวัตกรรมล่าสุดของโลกในศตวรรษที่ 21 มีฐานการผลิต 25 แห่ง  บริษัทสาขาตลาด 36 แห่ง และสำนักงานย่อย 23 แห่ง ที่ประจำอยู่ใน 46 ประเทศทั่วโลก นับว่าเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผลิตโทรศัพท์มือถือทั้งรุ่นปกติและแบบโทรศัพท์อัจฉริยะ ออกมาจำหน่ายหลากหลายรุ่น

โดย Flagship ที่เปิดตัวทุกปี ภายใต้ชื่อ Galaxy Note และ Galaxy S โดยในรุ่น Note จะมีปากกาที่เรียกว่า S Pen เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเขียน วาด บนหน้าจอ ในขณะที่รุ่น S จะเน้นการผลิตโดยใช้สเปกเครื่องที่สูงกว่ารุ่นอื่น ๆ ทั้งหมดที่ผลิตออกมา ทั้งรุ่น Note และ S นับเป็นคู่แข่งสำคัญของ iPhone ที่ผลิตโดย Apple Inc และคงปฏิเสธไม่ได้ว่าแบรนด์ Samsung ถือว่าเป็นมือถือแบรนด์ที่ได้รับความนิยมมากมายทั่วโลกอีกแบรนด์หนึ่ง ซึ่ง มือถือ Samsung นั้นค่อนข้างจะมีการออกสินค้ามาแยกย่อยหลายรุ่นหลายระดับ ยืดหยุ่นต่อการใช้งานด้านต่าง ๆ และแต่ละตัวก็มีฟังก์ชันเด็ด ๆ ต่างกัน ทำให้หลายคนอาจจะเลือกไม่ถูก ไม่รู้จะซื้อรุ่นไหนดี ทางแอดก็ได้ศึกษาหาข้อมูลมาให้เพื่อนๆกันค่ะ สำหรับสมาร์ตโฟนซัมซุงน่าใช้ในตอนนี้ อย่าง

Samsung s21 plus 5G

• หน้าจอขนาด 6.7 นิ้ว
• RAM 8 GB
• ROM 128/256 GB
• แบตเตอรี่ขนาด 4,800 mAh
• Exynos 2100 Octa Core
• ราคา 33,900 บาท

เอาเป็นว่า แบรนด์ซัมซุงกับในเรื่องของสมาร์ตโฟนคือของคู่กัน เป็นอีกแบรนด์ที่น่าสนใจและไว้เป็นตัวเลือกของการตัดสินใจซื้อโทรศัพท์มือถือ

2. NOKIA (โนเกีย) : ประเทศ ฟินแลนด์

เป็นบริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ของโลก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเอสโป ประเทศฟินแลนด์ค่ะ ปัจจุบันเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก  Nokia เริ่มจากการเป็นโรงงานกระดาษ แล้วขยับขยายสู่ธุรกิจมากมาย ทั้งผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยาง เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์โทรคมนาคม คอมพิวเตอร์ หุ่นยนต์ ผ่านการต่อยอดและซื้อกิจการ จนเรียกได้ว่านี่คือแบรนด์ใหญ่สุดของฟินแลนด์

Nokia พ้นช่วงวิกฤตไปได้อย่างหวุดหวิด หลังจากที่ Microsoft ทุ่ม 7,200 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 226,800 ล้านบาท) ในปี 2014 ซื้อกลุ่มธุรกิจอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ (Mobile Device) ของ Nokiaไป

ปัจจุบัน Nokia คืนสู่ตลาดสมาร์ตโฟนอีกครั้งภายใต้การบริหารของ HMD Global และการช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดจาก Nokia Corporation โนเกีย เคยเป็นหนึ่งในผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือแบบปุ่มกดรายใหญ่ที่สุดของโลกที่มีราคาตั้งแต่หลักพันไปถึงจนหลักหมื่น แต่กลับประสบปัญหามากมายจากกระแสโทรศัพท์มือถือค่ายใหม่ ๆ ที่มีการเพิ่มลูกเล่นมากขึ้นอย่าง iPhone หรือโทรศัพท์มือถือระบบ Android และโนเกียก็ได้รับความนิยมมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก เพราะชื่อในเรื่องของความทนทานจนกลายเป็นภาพลักษณ์ของแบรนด์ไปแล้ว แอดจะขอมาแนะนำ มือถือ Nokia น่าใช้ ทนทาน และราคาถูก ปี 2021 อย่าง

Nokia 1.4

• หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.52 นิ้ว
• ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 215 คู่กับ Adreno 308
• RAM 2GB / ROM 32GB
• แบตเตอรี่ 4,000 mAh
• ราคา 2,740 บาท

Nokia มีสไตล์เป็นของตนเองอย่างชัดเจนมากตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอกไปจนถึงภายในโดยเน้นการใช้งานที่สะดวกสบายและความทนทานเป็นหลัก สมาร์ตโฟนโนเกียจึงมีสไตล์ที่ไม่ซ้ำกับใครเลย หากเพื่อนๆ ชอบอะไรที่เรียบง่าย เน้นความสะดวกสบาย และความคุ้มค่าค่ะ

3. VIVO (วีโว่) : ประเทศจีน

ถือกำเนิดโดยประเทศจีนนั้นเอง และทำตลาดในประเทศจนแกร่งด้วยผลิตภัณฑ์ด้านอิเล็กทรอนิกส์ เช่น เครื่องเล่นหรือฟังเพลง MP3 แต่นั้นไม่เพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจ ทำให้แบรนด์วีโว่ต่อยอดการพัฒนาทำสมาร์ตโฟนอย่างจริงจัง โดยเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ.2554 จนกลายเป็นที่รู้จักกันในชื่อ โทรศัพท์ Vivo และ ในนปี 2018 ที่ผ่านมา แบรนด์นี้ยังสร้างการรับรู้ที่สำคัญด้วยการเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการสำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลกฟีฟ่า 2018 และ 2022 ทำให้แบรนด์นี้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในชื่อ วีโว่ (Vivo) อีกเช่นกัน

สมาร์ตโฟน Vivo เป็นระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ในประเทศไทยถือเป็นน้องใหม่ มีจุดเด่นในหลายมิติโดยเริ่มจากรุ่น ซึ่งมีการแบ่งเป็นซีรีส์อย่างชัดเจน อย่างเช่น รุ่น V,Y,X,S และ NE และลักษณะเด่นในเรื่องแรกคงต้องยกให้ในส่วนของเรื่องกล้องที่มีความคมชัดสูง จากนั้นมีความอึดและทนทานของการใช้งานเพราะแบตเตอรี่ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งนอกจากชาร์จเข้าไวยังสามารถใช้งานได้นานอีกด้วยค่ะ และรุ่นแบตสุดอึดอย่าง

vivo x60 Pro plus

• หน้าจอ AMOLED 24-bit ขนาด 6.56 นิ้ว
• ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 888
• RAM 12 GB
• ROM 256 GB
• กล้องหลังความละเอียด 50MP / กล้องหน้าความละเอียด 32MP
• แบตเตอรี่สุดอึด 4,200 mAh
• ราคาเริ่มต้น 24,999 บาท

ที่สำคัญแบรนด์สมาร์ตโฟน Vivo เป็นหนึ่งค่ายที่ผลิตสมาร์ตโฟนคุณภาพดี กล้องแจ่ม ราคาน่าคบหา เพราะดูเหมือนจะเน้นตลาดระดับกลางเอาใจคนงบน้อยอีกด้วยค่ะ

4. OPPO (ออปโป้) : ประเทศจีน

Oppo แบรนด์มือถือรายใหญ่จากประเทศจีนนี้ เริ่มต้นจากการทำสินค้าเกี่ยวกับด้านระบบเครื่องเสียง Hi-Fi Audio System ภายในบ้าน หรือก็คือเครื่องเสียงสำหรับดูหนังฟังเพลงภายในบ้านนั้นเอง พัฒนามาเรื่อยไปจนถึงเครื่องเล่นแผ่น DVD ตามเทคโนโลยี Blu-ray ขยายฐานตลาดออกไปทั่วโลก ซึ่งในตลาดตะวันตกก็ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมพอสมควร จนมาถึงปี 2012 ที่เริ่มขยับเข้ามาจับตลาดมือถือ โดยการตั้งเป้าเป็นมือถือถ่ายรูปเซลฟี่สวย ให้ฉีกตลาดแตกต่างจากคู่แข่ง

Oppo ได้ผลิตออกสมาร์ตโฟนมาหลายรุ่นที่ชูจุดเด่นเรื่องกล้อง จนได้เป็นเป็นผู้นำด้านการเซลฟี่ OPPO ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์สมาร์ตโฟน อันดับ 4 ของโลก ตั้งแต่ปี 2016 และได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อกรเซลฟี่ที่สมบูรณ์อย่างไม่หยุดยั้ง และ OPPO รุ่นที่กำลังเด่นในเรื่องของกล้องที่ดีและราคาที่สามารถจับต้องได้ในปีนี้ ต้องยกให้เป็น

OPPO Find X3 Pro

• หน้าจอ AMOLED 10-bit ขนาด 6.7 นิ้ว
• Snapdragon 888
• RAM 8/12 GB
• ROM 256 GB
• แบตเตอรี่ 4,500 mAh
• กล้องดิจิทัล 50 MP / กล้องหน้าความละเอียด 32MP
• ราคาเริ่มต้น 33,990 บาท

สมาร์ตโฟนของ OPPO นั้นเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะ OPPO ได้มีการพัฒนาตัวเครื่อง และสเปกต่าง ๆ ออกมาอยู่เสมอ เพื่อให้เข้ากับผู้ใช้งานหลายรูปแบบ และช่วยในการตัดสินใจที่จะหาสมาร์ตโฟนให้เข้ากับตัวเอง

5. Xiaomi (เสี่ยวหมี่) : ประเทศจีน

Xiaomi แบรนด์สมาร์ตโฟนของประเทศจีน ผลิตและลงทุนเกี่ยวกับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ออกผลิตภัณฑ์สมาร์ตโฟนของตนเองในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2554 และได้ส่วนแบ่งในตลาดจีนอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นบริษัทสมาร์ตโฟนรายใหญ่ที่สุดของประเทศจีนใน พ.ศ. 2557 และกลายเป็นบริษัทผลิตสมาร์ตโฟนรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลกเมื่อเริ่มครึ่งหลังของปี พ.ศ. 2561 มีตลาดใหญ่ที่สุดอยู่ในประเทศจีน และตลาดใหญ่เป็นอันดับ 2 อยู่ในประเทศอินเดีย

Xiaomi เปิดตัวโทรศัพท์มือถือของตัวเองเป็นครั้งแรก โดยจับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการโทรศัพท์มือถือสเป็คดี ในราคาสมเหตุสมผล  คำว่าราคาสมเหตุสมผลนี้เอง ทำได้เพราะ Xiaomi เลือกที่จะไม่วางขายโทรศัพท์รุ่นนี้ผ่านหน้าร้าน เน้นขายเพียงช่องทางออนไลน์เพียงอย่างเดียว เพราะคนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่สนใจเทคโนโลยีรู้จักแบรนด์ Xiaomi มาตั้งแต่ครั้งที่ทำ MIUI แล้ว การขายผ่านทางช่องทางออนไลน์เพียงอย่างเดียวจึงไม่ใช่อุปสรรคของผู้ซื้อ และสมาร์ตโฟนที่โดดเด่นของเสี่ยวหมี่ในตอนนี้ต้องยกเป็น

Xiaomi Mi 11

• หน้าจอAMOLED DotDisplay ขนาด 6.81 นิ้ว
• Qualcomm Snapdragon 888
• RAM : 8 GB / ROM สูงสุด 256 GB
• แบตเตอรี่ 4,600 mAh รองรับการชาร์จเร็วผ่านสาย 55 W ไร้สาย 50 W
• ราคาเริ่มต้น 21,990 บาท

มือถือ Xiaomi (เสี่ยวหมี่) ที่มีตัวเลือกครบครันทุกระดับ พร้อมความคุ้มค่าในราคา และแบรนด์นี้ก็ผลิตสมาร์ตโฟนที่ดีได้ในราคาที่ย่อมเยา และปรับตัวได้ไวทันเทรนด์เปลี่ยนไป

6. Realme (เรียวมี) : ประเทศจีน

เป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนจากประเทศจีน ที่ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2561 โดย “สกายลี” อดีตทีมผู้บริหารสมาร์ทโฟน OPPO ที่มาพร้อมกับทีมงานรุ่นใหม่ มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี โดยจุดมุ่งหมายของ realme คือการสร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่าและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ realme ได้แยกการบริหารจาก OPPO อย่างเต็มตัวเมื่อเดือนสิงหาคม 2561

จุดเด่นที่สำคัญของ realme คือการพัฒนาสมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่อง Power และ Style เข้าด้วยกัน นั่นคือการที่มีสเปกสุดล้ำ มาพร้อมกับดีไซน์สุดทันสมัย ในราคาจับต้องได้และสมาร์ตโฟน Realme น่าใช้ในปี 2021 คือ

Realme 8

• หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว
• ชิป Mediatek Helio G95
• RAM 8GB / ROM 128GB
• แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 30W
• กล้องหลัง 4 เลนส์ 64MP กล้องหน้า 16MP
• ราคา 8,999 บาท

Realme เป็นแบรนด์น้องใหม่ที่น่าจับตามองมาก ๆ เพราะมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว  และสามารถแซงหน้าแบรนด์จีนรายอื่นขึ้นมาในอันดับต้น ๆ ได้ ดังนั้นต้องคอยติดตามกันต่อไปว่า Realme จะขึ้นเป็นแบรนด์อันดับต้นๆ ของตลาดได้หรือไม่

7. APPLE ( แอปเปิล) : ประเทศสหรัฐอเมริกา

แบรนด์ Apple หรือในชื่อเดิม บริษัทแอปเปิลคอมพิวเตอร์ ก่อตั้งขึ้นในปี 1976 โดยสตีฟ จอบส์และโรนัลด์เวย์น ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นบริษัทในซิลิคอนแวลลีย์ ทำธุรกิจเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ แอปเปิลปฏิวัติคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะในยุค 70 ปัจจุบันแอปเปิลมีชื่อเสียงด้านฮาร์ดแวร์ เช่น ไอแมค ไอพอด ไอโฟน ไอแพด และร้านขายเพลงออนไลน์ไอทูนส์

แอปเปิลได้เปิดเผยไอโฟนรุ่นแรกโดย สตีฟ จอบส์ ในงานแม็คเวิลด์ วันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2550 และวางจำหน่ายครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2550 การทำงานของโทรศัพท์ไอโฟนนี้จะแตกต่างจากโทรศัพท์มือถืออื่น โดยไอโฟนจะไม่มีปุ่มสำหรับกดหมายเลขโทรศัพท์ โดยการทำงานทั้งหมดจะทำงานผ่านหน้าจอโดยการสัมผัสมัลติทัชผ่านคำสั่งต่าง ๆ โดยมีระบบปฏิบัติการหลัก iOS และมีระบบเซนเซอร์ในการรับรู้สภาพของเครื่องเพื่อกำหนดการแสดงผลของจอภาพ โดยเริ่มจากรุ่น IPHONE 3G จนถึงรุ่น IPHONE 12 PRO MAX ในปัจจุบัน และได้รับความนิยมมากที่สุดในตอนนี้

IPHONE 12 PRO MAX

• หน้าจอแสดงผล Super Retina XDR OLED ขนาด 6.7 นิ้ว
• หน่วยประมวลผล Apple A14 Bionic
• RAM 6 GB
• ROM 128GB / 256GB / 512GB
• แบตเตอรี่ขนาด 3,687mAh ชาร์จเร็ว 20W
• กล้องหลัก 12 MP / กล้องหน้า 12 MP
• ราคาเริ่มต้น 39,900 บาท

iPhone นั้นได้ครองภาพลักษณ์เรื่องความเป็นสมาร์ตโฟนยอดเยี่ยม ดีไซน์เก๋ เป็นลัญลักษณ์ของความหรูหราในโลกไอทีมาอย่างยาวนาน และในเรื่องความหลากหลายของแอปก็ต้องยอมรับว่า Apple App Store มีให้เลือกมากมายจริง ๆ โดยเฉพาะเรื่องเกมที่ฝั่ง iPhone มีเกมหลากหลายกว่ามาก

8. Motorola Mobility LLC ( โมโตโรลาโมบิลิตี ) : ประเทศสหรัฐอเมริกา

โมโตโรลาเริ่มกิจการเมื่อ ค.ศ. 1928 ในชื่อ Galvin Manufacturing Corporation และเปลี่ยนชื่อมาเป็นโมโตโรลาในปี ค.ศ. 1947 ผลิตภัณฑ์ส่วนมากของโมโตโรลาเกี่ยวข้องกับวิทยุ อุปกรณ์สื่อสารทางการทหาร โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์เครือข่ายของโทรศัพท์มือถือ ค.ศ. 2007 เป็นต้นมา บริษัทประสบภาวะขาดทุนสะสมต่อเนื่องถึง 4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงได้แยกหน่วยธุรกิจเป็นสองบริษัท จากนั้นโมโตโรลาโมบิลิตีได้เข้าเจรจากับกูเกิล ซึ่งมีผลต่อการพัฒนาระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ของกูเกิล กูเกิลประกาศเข้าซื้อกิจการโทรศัพท์มือถือโมโตโรลาโมบิลิตีเป็นผลสำเร็จเมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 2012 และเลอโนโวประกาศเข้าซื้อกิจการโมโตโรลาโมบิลิตีจากกูเกิล การซื้อขายสำเร็จลงในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2014

โมโตโรล่าได้เข้าสู่ยุคใหม่ของการพัฒนาสมาร์ทโฟนและยังคงเปลี่ยนโฉมหน้าของเทคโนโลยีและผลักดันการพัฒนาสู่โอกาสใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องในปัจจุบันได้ผลิตมือถือสมาร์ตโฟนออกมาให้ได้จับจองกันแล้วหลายรุ่น แต่ละรุ่นก็มีลักษณะและความแตกต่างกันออกไปทั้งในเรื่องของสเปกและราคา ตอนนี้รุ่นที่มาแรงและนิยมที่สุดก็คือ

Motorola Moto G9 Plus

• หน้าจอขนาด 6.8 นิ้ว
• ชิปเซ็ต Snapdragon 730G Octa Core
• RAM 6GB / ROM 128GB
• กล้องหลังความละเอียดสูงสุด 64MP
• แบตเตอรี่ Li-Pol 5,000 mAh
• ราคา 6,990 บาท

Motorola ก็มีการแข่งขันกันในตลาดที่ดุเดือดเช่นกัน เพราะเป็นแบรนด์มีความน่าสนใจและคุ้มค่าไม่แพ้แบรนด์อื่น ๆ

9. Sony Mobile Communications AB ( โซนี่ โมบายล์ คอมมูนิเคชัน เอบี ) : ประเทศญี่ปุ่น

ก่อตั้งเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2544 โดยเป็นการร่วมทุนระหว่าง โซนี่ และ อีริคสันซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ โตเกียว, ญี่ปุ่น จนกระทั่ง Sony เข้าซื้อหุ้นของ Ericsson ในการร่วมทุนเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2555 Sony Mobile สร้างขึ้นโดยเฉพาะ Android- สมาร์ทโฟนที่ใช้พลังงานภายใต้ Xperia ชื่อแบรนด์ย่อย – ได้รับการพัฒนาก่อนหน้านี้ด้วย คอมพิวเตอร์แท็บเล็ต (แท็บเล็ต Sony) smartwatches (Sony SmartWatch) และ ตัวติดตามการออกกำลังกาย (Sony SmartBand) ควบคู่ไปกับอุปกรณ์เสริมและซอฟต์แวร์สำหรับอุปกรณ์

มือถือระบบ Android ก็ยังมีผู้ใช้งานอยู่เป็นจำนวนมาก และ Sony ก็ได้รับความนิยมในหมู่คนใช้แอนดรอยด์เช่นกัน และ Sony Xperia คือสมาร์ตโฟนที่ผลิตขึ้นโดยบริษัท Sony ซึ่งเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ Android ที่ได้รับความนิยมจากผู้คนจำนวนมากทั่วโลก เนื่องจากใช้งานง่ายเช่นเดียวกับ iPhone และรุ่น Sony Xperia ที่ได้รับความนิยมที่สุดในตอนนี้ก็คือ

Sony Xperia 5 II

• หน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว
• ชิปเซ็ต Snapdragon 865
• RAM 8G / ROM 128GB
• แบตเตอรี่ 4,000 mAh รองรับชาร์จไว 21W
• กล้องหลังความละเอียดสูงสุด 12 MP และ กล้องหน้า 8MP
• ราคา 28,990 บาท

ในบรรดาอุปกรณ์ Android Sony Xperia ได้รับความนิยมเป็นพิเศษพราะว่าโทรศัพท์ของ Sony มีประสิทธิภาพขั้นพื้นฐานของสมาร์ตโฟนที่ ความแข็งแรงและใช้งานง่าย มีความรวดเร็ว จึงทำให้หลาย ๆ คนจับตากับโทรศัพท์รุ่นนี้

10. Google (กูเกิ้ล) : ประเทศสหรัฐอเมริกา

บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านไอทีอย่าง Google ก็ได้มีการเปิดตัวสมาร์ตโฟนออกมามากกว่า 12 รุ่น โดย Google Nexus One ที่เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 2010 แล้วในปี 2016 ก็ได้มีการเปิดตัวรุ่นใหม่ชื่อตระกูลใหม่ที่ชื่อว่า Pixel ด้วยการเปิดตัวของ Google Pixel และ Google Pixel XL เข้ามาเปลี่ยนโฉมหน้าของสมาร์ตโฟนจาก Google แบบสิ้นเชิง

การพัฒนาสมาร์ตโฟนจากทาง Google โดยสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ ตระกูล Nexus เป็นการผลิตที่เน้นออกมาด้านซอฟแวร์เพื่อนักพัฒนามากกว่า แต่พอเปลี่ยนมาเป็นตระกูล Pixel ก็จะมีการเน้นไปด้านฮาร์ดแวร์มากขึ้นเพื่อตอบโจทย์กับตลาดในวงกว้างตามเป้าหมายของทาง Google และตอนนี้ รุ่น Google Pixel 5 ก็ถือเป็นรุ่นที่มาแรงในตอนนี้ ก่อนที่รุ่นพี่อย่าง Google Pixel 6 จะวางจำหน่ายในเดือนตุลาคมนี้

Google Pixel 5

• หน้าจอแสดงผล OLED 24-bit ขนาด 6 นิ้ว
• Snapdragon 765G
• RAM 8GB
• ROM 128GB
• กล้องหลัง 12.2 + 16MP / กล้องหน้าความละเอียด 8MP
• แบตเตอรี่ 4,080 mAh
• ราคา 25,490 บาท

จะเห็นได้ว่า จริง ๆ แล้ว Google ไม่ได้หายไปไหน ยังคงพัฒนาอุปกรณ์บนตลาดสมาร์ตโฟนเช่นเดิม แต่เน้นไปที่กลุ่มตลาดสมาร์ตโฟนระดับกลางมากขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงได้ง่ายมากยิ่งขึ้น แต่ก็ต้องติดตาม และเอาใจช่วยต่อไปว่าทิศทางของมือถือ Google Pixel จะเป็นไปในทิศทางไหน

ทั้งหมดนี้เป็นแบรนด์มือถือที่กำลังโดดเด่นใน 2021 พร้อมรุ่นที่กำลังฮิตของแบรน์นั้น เอาเป็นว่าที่แอดเลือกมาให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันทั้งหมดนี้เพื่อหวังว่าเป็นประโยชน์แก่เพื่อน ๆ โดยไม่ได้เทใจไปทางแบรนด์ไหนเลยน้า และสำหรับแบรนด์อื่นๆนอกเหนือจากที่เห็นในบทความนั้น จริงๆมีอีกหลายๆประเทศเลยนะสามารถไปส่องกันไปตามภาพข้างล่างได้เลยย จะเห็นว่ามีแบรนด์ที่ในไทยเองอาจจะเงียบๆอีกหลายๆแบรนด์เลยทีเดียวสำหรับ มือถือหลายๆยี่ห้อนี้