หลายคนที่ต้องปรับวิธีการทำงานใหม่เป็นการ Work from home หรือ Remote working จากสถานการณ์และความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นทั่วโลก และเคยคิดว่าทำงานที่บ้านน่าจะดี ตื่นสายได้ ไม่ต้องใช้เวลาเดินทาง แถมระหว่างวันหากพอมีเวลาก็อาจไปหลบพักได้บ้าง แต่ความจริงกลับไม่เหมือนที่คิดเสมอไป เชื่อว่าคนจำนวนมากกำลังโดนงานหล่นทับ หันไปทางไหนก็เจอแต่งาน หรือเรียกได้ว่างานเยอะกว่าการนั่งทำงานที่ออฟฟิศซะอีก แต่ถึงแม้ว่างานจะหนักหนาสาหัสแค่ไหน Work-Life Balance ก็ยังเป็นสิ่งที่คนทำงานทุกคนใฝ่หา (แม้จะไม่มีอยู่จริงในหลายครั้ง) เพราะหากทำแต่งานอย่างเดียวจนรู้สึก Burn out คงไม่ดีต่อสุขภาพกายและใจแน่นอน หากใครกำลังเครียดกับงาน บาลานซ์ชีวิตยังไม่เข้าที่ซักที เรามีทริคเล็กๆ น้อยๆ ที่เทคโนโลยี และสมาร์ทดีไวซ์อย่างแท็บเล็ตและแล็ปท็อป จะเข้ามาช่วยผ่อนหนักเป็นเบาให้เราทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกันได้ง่าย เร็ว และได้ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทำให้เราบาลานซ์ชีวิตการทำงานและการพักผ่อนได้ดีกว่าเดิม ขอบอกเลยว่าหากลองนำไปปรับใช้ ชีวิตงานของคุณจะราบรื่นไร้ขีดจำกัดแบบคาดไม่ถึงและชีวิตส่วนตัวในมุมอื่นๆ ก็จะแฮปปี้ดี้ด๊าได้ในทุกโมเมนต์

ทำงานข้ามดีไวซ์ ตัวช่วยจากเทคโนโลยีงานเสร็จไวและได้คุณภาพ

เพราะงานที่ดีคืองานที่มีคุณภาพและเสร็จทันเวลาหรือก่อนกำหนด แต่งานสมัยนี้ที่ต้องโยนหรือดึงข้อมูลไปมาระหว่างดีไวซ์ อาจติดขัดขึ้นมาได้หากอุปกรณ์ไอทีที่ใช้อยู่ไม่มีนวัตกรรมที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการทำงานข้ามดีไวซ์ สิ่งนี้จะไม่ใช่ปัญหาเลยหากมีแท็บเล็ตเจ๋งๆ ซักเครื่องอย่าง HUAWEI MatePad 11 ที่มาพร้อมฟีเจอร์ Multi-Screen Collaboration ซึ่งใช้งานผ่าน Huawei Share ที่ช่วยให้เราทำงานได้คุณภาพ คล่องตัว และสะดวกสบายมากขึ้นเพราะสามารถทำงานประสานกันได้อย่างไร้ขีดจำกัดระหว่างแท็บเล็ต แล็ปท็อป และสมาร์ทโฟนผ่าน โหมดเด็ด Mirror Mode, Extend Mode, และ Collaborate Mode

  • Touch screen ตกแต่งและแก้เอกสารได้อย่างอิสระบนแท็บเล็ต – หากต้องแก้ไขตกแต่งเอกสารหรือสำหรับสายอาร์ตที่ต้องใช้โปรแกรมวาดภาพบนแล็บท็อปแล้วรู้สึกว่าทำได้ไม่เร็วถึงใจ แนะนำให้เปิดใช้ Mirror Mode จากฟีเจอร์ Multi-Screen Collaboration ด่วนๆ เพราะโหมดนี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานเห็นภาพจากจอแล็ปท็อปมาอยู่ในจอแท็บเล็ตเหมือนกัน ซึ่งจะทำให้สามารถแก้ไขขีดเขียนงานต่างๆ  ผ่านแท็บเล็ตได้เลย เช่น หากต้องวาดภาพประกอบพรีเซนเทชันก็ใช้ HUAWEI M-Pencil (2nd generation) วาดผ่านแท็บเล็ตที่เปิด Mirror Mode อยู่ โดยแอคชั่นต่างๆ ที่ทำผ่านแท็บเล็ตจะเกิดขึ้นพร้อมๆ กันกับหน้าจอของแล็ปท็อปที่ใช้ร่วมกับแท็บเล็ตแบบเรียลไทม์ หรือสามารถนำโหมดนี้ไปประยุกต์ใช้ในการประชุมที่ทุกคนต้องการดูไฟล์งานเดียวกันแต่ดันไม่มีโปรเจคเตอร์ต่อฉายขึ้นหน้าจอ โดยทีมที่เข้าร่วมประชุมสามารถแบ่งกลุ่มกันดูเอกสารได้ ทีมนึงดูผ่านแล็ปท็อปและอีกทีมดูบนแท็บเล็ตแบบไม่ต้องง้อโปรเจคเตอร์
  • จอเดียวไม่พอ ขอมีจอเสริม Multi-tasking ไวไม่ต้องสลับไฟล์ไปมาอีกต่อไป – มนุษย์ Multi-tasking ยุคนี้ หน้าจอเดียวคงไม่ทันใจอีกต่อไป เพราะต้องเปิดหลายอย่างใช้งานในเวลาเดียวกัน และแท็บเล็ตก็สามารถเป็นจอเสริมขนาดย่อมให้ได้ ว่าแล้วก็เปิด Extend Mode ซะเลย แค่นี้ก็หมดปัญหาแล้ว พิมพ์งานทำเอกสารต่างๆ บนแล็ปท็อปไปพร้อมๆ กับการดูเอกสารอ้างอิงได้จากแท็บเล็ตที่ทำหน้าที่เหมือนจอมอนิเตอร์จอที่ 2 หรือหาข้อมูลบนแล็ปท็อปไปพร้อมๆ กับการใช้ปากกา HUAWEI M-Pencil (2nd generation) เขียนตอบแชทเพื่อนร่วมงานหรือแชทลูกค้าผ่านอีกฟีเจอร์สุดปัง Free Script บนแอปพลิเคชัน Line, Facebook Messenger, HUAWEI Browser ที่หาโหลดไว้ใช้งานได้ผ่าน HUAWEI AppGallery
  • รับส่งไฟล์งานไปมาข้ามดีไวซ์ไม่วุ่นวาย ปิดจ๊อบงานง่ายๆ ได้พักผ่อนเร็ว – ใครว่าส่งงานต้องมีสายต่อ USB หลายประเภทให้ยุ่งยากแค่เปิดใช้งาน Collaborate Mode ที่ทำให้การรับส่งสารพัดไฟล์ ทั้งเอกสาร ภาพ เสียง วิดีโอ ไปมาระหว่างแล็ปท็อปและเท็บเล็ตง่ายและรวดเร็วเพียงแค่ใช้เมาส์ของ PC ลากและวางไฟล์ไปมาระหว่างดีไวซ์ อีกทั้งยังสามารถใช้คีย์บอร์ดของเครื่อง PC พิมพ์ ตอบข้อความหรือแก้ไขเอกสารบนแท็บเล็ตได้สบายๆ และสำหรับสายอาร์ตที่ต้องจดโน้ตดราฟต์ไอเดียทำงานอยู่ตลอดเวลาเมื่อเกิดปิ๊งไอเดียก็สบายใจได้ เพราะนอกจากจะสามารถใช้ HUAWEI M-Pencil (2nd generation) วาดเขียนหรือร่างไอเดียผ่านแอปพลิเคชันจดโน้ตเจ๋งๆ อย่าง Jnotes ที่สามารถเปิดโน้ตพร้อมกันได้ โน้ต มาพร้อมเทคโนโลยีจดจำลายมือ Touchnotes ที่สามารถนำภาพและและข้อความจากเบราว์เซอร์ไปใช้ในแอปฯ ได้อย่างเต็มที่ Noteshelf ซึ่งมาพร้อมเครื่องมือตัดแปะที่ช่วยย้ายไอเทมต่างๆ ไปมาได้สะดวกขึ้น หรือแม้แต่ใช้ฟีเจอร์ผู้ช่วยเปลี่ยนลายมือให้เป็นตัวอักษรที่สละสลวยด้วย HUAWEI FreeScript ได้อย่างเป๊ะโดนใจแล้วก็ยังสามารถแชร์โน้ตเหล่านี้ไปมาระหว่างดีไวซ์ผ่าน Collaborate Mode แค่นี้ก็ทำงานเสร็จสมบูรณ์ติดสปีดได้อย่างครบเครื่องสุดๆ

  • สุดยอดการทำงานข้ามดีไวซ์ของจริงต้องใช้ได้กับทุกสมาร์ทดีไวซ์หลัก – เพื่อการทำงานอย่างราบรื่นไร้รอยต่อและไร้พรมแดนนั้นเราก็ต้องสามารถทำงานข้ามไปมาระหว่างหลายๆ ดีไวซ์หลักได้ง่ายๆ ซึ่งสมาร์ทดีไวซ์ของหัวเว่ย อย่างแท็บเล็ต แล็ปท็อป และสมาร์ทโฟน ต่างก็มาเหนือด้วยฟีเจอร์โดนใจคนทำงานยุคใหม่อย่าง Multi-Screen Collaboration ที่ผสานโลกของ สมาร์ทดีไวซ์เอาไว้ด้วยกันเพราะใช้งานร่วมกันได้อย่างไร้ขีดจำกัดโดยเฉพาะกับ HUAWEI MatePad 11 ที่มีการอัปเดตฟีเจอร์ตัวนี้ให้ล้ำไปอีกขั้น ทำให้เมื่อเปิดใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ หน้าจอของสมาร์ทโฟนบนแท็บเล็ตจะปรับขนาดไปตามขนาดหน้าจอแบบเต็มๆ ของแท็บเล็ตได้อีกด้วย ไม่ว่าจะอ่านข่าวหรือใช้งานในแง่ไหนฟีเจอร์นี้ก็จะช่วยส่งมอบมุมมองการมองเห็นที่เต็มตาสะดวกสบายยิ่งกว่าเดิม อีกทั้งผู้ใช้งานยังสามารถใช้ HUAWEI Smart Magnetic Keyboard พิมพ์ตอบแชท ข้อความ หรืออีเมลบนสมาร์ทโฟนได้อย่างโปร อีก ความคูลของฟีเจอร์นี้คือขณะที่แอปฯ บนมือถือเปิดเป็นหน้าจอใหญ่เต็มจอบน HUAWEI MatePad 11 เรายังสามารถใช้งานแอปฯ อื่นๆ ในเวลาเดียวกันบนสมาร์ทโฟนของเราได้อีกด้วย โดยการเปิดใช้งาน แอปฯ พร้อมกัน แอปฯ บนแท็บเล็ต และอีก แอปฯ บนสมาร์ทโฟน ไม่ต้องกังวลว่าแอปฯ จะตีกันเพราะแอปฯ ที่เปิดใช้งานบนสมาร์ทโฟนก็สามารถใช้งานได้ตามปกติโดยที่หากมีสายเข้าหรือการแจ้งเตือนต่างๆ ก็จะไปโผล่บนสมาร์ทโฟนเท่านั้น สบายใจเรื่องความเป็นส่วนตัวได้เลยหากว่าต้องใช้ฟีเจอร์นี้เปิดไฟล์งานหรือพรีเซนต์งานบนแท็บเล็ต

    แท็บเล็ตที่เป็นมากกว่าแท็บเล็ต เสมือนเลขาส่วนตัวช่วยทำงานให้เป๊ะปัง

    จะดีแค่ไหนหากแท็บเล็ตที่ใช้อยู่สามารถเป็นได้มากกว่าแค่แท็บเล็ตช่วยงาน บอกเลยว่าเราจะสามารถทำงานได้เร็วทันใจ ผลงานโดดเด่น สะดุดตา อีกทั้งยังมีเวลาเปลี่ยนจากโหมดทำงานไปโหมดบันเทิงให้ตัวเองได้พักผ่อนบาลานซ์ชีวิตได้เร็วยิ่งขึ้น มีความสุขอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องงาน แท็บเล็ตรุ่นใหม่ล่าสุดของหัวเว่ย HUAWEI MatePad 11 ขอบอกว่าเด็ดไม่เบาเพราะถือเป็นอุปกรณ์ไอทีที่สเปกดีฟีเจอร์เด่นเป็นเสมือนเลขาส่วนตัวช่วยทำงานได้อย่างน่าประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพความปังของงาน ช่วยให้การประชุมราบรื่นเก็บข้อมูลสำคัญได้ไม่มีตกหล่น และยังช่วยจัดระเบียบตลอดจนต่อยอดไอเดียของเราได้ดีอีกด้วย

  • เปิดแอปฯ ใช้งาน หาแรงบันดาลใจ แบ่งได้ และ หน้าจอในแอปฯ เดียว  – App Multiplier อัปเดตใหม่ของ HUAWEI MatePad 11 เพิ่มขีดความสามารถในแง่ของความยืดหยุ่นและความสะดวกสบายในการใช้งาน โดยสามารถเปิดแอปฯ ที่ต้องการเปิดแบบ หน้าจอคู่ขนาน ทำให้ทำงานได้หลายอย่างในแอปฯ เดียวหรือหากอย่างเอฟของคลายเครียดระหว่างทำงานก็เปิดแอปฯ ช้อปปิ้งอย่าง Lazada หรือ JD Central เทียบสินค้าที่อยากซื้อที่สุดจะได้ไม่เผลอช้อปเพลินจนเกินไป ส่วนอีกฟีเจอร์ Multi-Window ที่ยกระดับการใช้งานแอปฯ โดยการเปิดหน้าต่างแอปฯ นั้นๆ ได้สูงสุดถึง หน้าต่าง และสามารถแก้ไข copy-paste ข้อมูลระหว่าง หน้าต่าง ไปมาได้ง่ายๆ ช่วยให้งานที่ล้นมือเสร็จไวทันใจหายเครียดแน่นอน
  • มีแอปพลิเคชันดีๆ ไว้เป็นเลขาส่วนตัวเมื่อต้องประชุมงาน – ทำงานคนเดียวให้เสร็จเร็วเพื่อที่จะได้บาลานซ์ชีวิตงานและการพักผ่อนถือว่าไม่ใช่เรื่องที่ยากจนเกินไปหากมีผู้ช่วยทำงานและเลขาส่วนตัวเมื่อต้องประชุมงานเป็นแอปพลิเคชันเด็ดๆ ที่หาดาวน์โหลดไว้ใช้งานได้ผ่านทาง HUAWEI AppGallery เช่น CamScanner, PDF Reader Pro, Office Suite, Microsoft Office, WPS Office ที่ช่วยย่นระยะเวลาในการสะสางงานให้รวดเร็วแบบมือโปรได้ในพริบตา และหากงานเสร็จเร็วอยากเติมเต็มความสุขด้วยการดูหนังฟังเพลงอัปเดตข่าวสารก็เลือกโหลดแอปฯ เด็ด แอปฯ ดังได้ตามใจชอบไม่ว่าจะเป็น TikTok, LINE TV, Thairath, JOOX Music, iQIYI Video, VIU และ MONO29

โปรดีแบบนี้ต้องขยาย!

คิดว่าทุกคนคงพอจะได้ทริคในการทำงานให้ได้คุณภาพและเสร็จเร็วมีเวลาเหลือให้ตัวเองหาความสุขพักผ่อนเติมเต็มชีวิตกันบ้างไม่มากก็น้อย และแท็บเล็ต HUAWEI MatePad 11 รุ่นใหม่ล่าสุดถือเป็นตัวเลือกดีๆ ที่หากอยากมี Work-Life Balance ในชีวิตก็ต้องลองซื้อไว้ใช้สักหน่อย และที่พิเศษสุดๆ ก็คือหัวเว่ยยังคงจัดโปรแรงยาวๆ ไปเอาใจลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อซื้อ HUAWEI MatePad 11 ผ่าน HUAWEI Store, HUAWEI Experience Store, ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ หรือร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบนแพลตฟอร์ม E-Commerce อย่าง JD Central, Lazada และ Shopee ตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม 2564 ถึง 31 สิงหาคม 2564 ดูรายละเอียดราคาและโปรเด็ดๆ ได้ตามด้านล่างนี้เลย