เมื่อวานนี้ Xiaomi ได้เปิดตัว Mi CC9 Pro ไปในงานเปิดตัวที่ประเทศจีน โดยสมาร์ทโฟนดังกล่าวจะเป็นเรือกลางที่มาพร้อมชิปเซต Snapdragon 730G ที่มี RAM สูงสุดถึง 8GB และจุดเด่นที่สำคัญมากสำหรับรุ่นนี้ก็คือกล้องหลังสุดเทพทั้ง 5 ตัวที่ทำคะแนน DxOMark ได้สูงมากๆนั่นเอง

นอกจากนี้มันยังมีรูแจ็ค 3.5mm ที่รองรับคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res อีกด้วย อีกประการหนึ่งก็คือแบตเตอรี่ของมันจะมีความจุถึง 5,260mAh ที่รองรับการชาร์จไว 30W ที่ชาร์จแบต 58% ได้ใน 30 นาที และชาร์จจาก 0% จนเต็มได้ในเวลา 65 นาที

รายละเอียดของกล้องหลังทั้ง 5 ตัว

  • เลนส์ตัวหลัก 108MP เซนเซอร์ 1/1.33 นิ้ว (f/1.69) เลนส์ 7P (เลนส์ 8P ในรุ่น Premium Edition), OIS ที่แบ่งถ่ายเป็น 27MP
  • เลนส์สำหรับ portrait 12MP เซนเซอร์ 1/2.6 นิ้ว เซนเซอร์ Samsung SAK2L3 2PD ที่มีระยะโฟกัส equivalent 50mm (f/2.0) และซูมได้ 2x
  • เลนส์เทเล 8MP เซนเซอร์ 1/3.6 นิ้ว ที่มีระยะโฟกัส equivalent 94mm (f/2.0), OIS, และซูมแบบ optical ได้ 5x, ซูมแบบ hybrid ได้ 10x และ 50x
  • เลนส์กว้าง ultra-wide 117° 20MP เซนเซอร์ 1/2.8 นิ้ว ที่มีระยะโฟกัส equivalent 16mm (f/2.2)
  • เลนส์ macro 2MP (f/2.4) สำหรับถ่าย macro 1.5cm
  • แฟลชคู่ Dual flashes, อันหนึ่งเป็นแสงจ้าอีกอันหนึ่งเป็นแสงนุ่ม
  • กล้องหน้า 32MP front camera

ด้วยกล้องที่เทพขนาดนี้ทำให้เจ้า Mi CC9 Pro Premium Edition สามารถทำคะแนน DxOMark รวมได้ถึง 121 คะแนน โดยขึ้นแท่นไปอยู่ที่อันดับหนึ่งร่วมกับ Huawei Mate 30 Pro นั่นเอง

สเปคของ Xiaomi Mi CC9 Pro

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.47 นิ้ว (2340 × 1080 พิกเซล) Full HD+
  • ชิปเซต Octa Core (2.2GHz Dual + 1.8GHz Hexa) Snapdragon 730G พร้อมการ์ดจอ Adreno 618
  • RAM 6GB / 8GB พร้อม storage UFS 2.1 128GB, RAM 8GB พร้อม storage UFS 2.1 256GB
  • ซิมคู่ (nano + nano)
  • Android 9.0 (Pie) ที่ครอบด้วย MIUI 11
  • กล้องหลัง 108MP (f/1.69) ที่ใช้เซนเซอร์ Samsung HMX 1/ 1.33″, ขนาดพิกเซล 0.8μm, OIS, เลนส์ 7P, แฟลชคู่, เลนส์ portrait 12MP ที่ใช้เซนเซอร์ 2PD 1/2.6 นิ้ว, เลนส์เทเล 5MP สำหรับซูมแบบ hybrid 10x แบบ digital 50x และแบบ optical 5x, OIS, เลนส์ ultra-wide 117° 20MP, เลนส์ macro 2MP สำหรับถ่าย macro 1.5cm, ถ่ายวิดีโอ 4k ได้ที่ 60fps, และถ่ายวิดีโอ 960fps ได้ในความละเอียด 720p
  • กล้องหน้า 32MP (f/2.0)
  • เซนเซอร์สแกนนิ้วแบบ In-display, เซนเซอร์ Infrared
  • 3.5mm audio jack, Hi-Res audio, 1216 1.0cc speaker
  • ขนาดตัวเครื่อง: 157.8×74.2×9.67mm; น้ำหนัก: 208g
  • Dual 4G VoLTE, WiFi 802.11 ac (2.4GHz + 5GHz), Bluetooth 5, GPS + GLONASS, NFC, USB Type-C
  • แบตเตอรี่ 5,260mAh (มาตรฐาน) / 5,160mAh (ขั้นต่ำ) ที่มีชาร์จไว 30W

มันจะมีให้เลือก 3 สีประกอบด้วย Midnight Black, Aurora Green และ Snow Aurora ในราคา 2,799 หยวน(ประมาณ12,000บาท) ในรุ่น 6GB/128GB, 3,099 หยวน(ประมาณ13,400บาท) ในรุ่น 8GB/128GB และ 3,499 หยวน(ประมาณ15,100บาท) ในรุ่นท็อป 8GB/256GB นั่นเอง

FONEARENA, GIZMOCHINA