สวัสดีครับเพื่อนๆชาว TechhangOut ทุกท่านกลับมาอีกครั้งกับกระทู้รีวิว สำหรับรีวิวที่ผมนำมาฝากก็จะเจาะลึกทุกข้อสงสัยเหมือนเช่นเคย สำหรับกระทู้นี้เรียกได้ว่าเราอยู่กับสมาร์ทโฟนที่มีสเปคเเละราคาที่คุ้มค่ามากๆ เเละหลังจากเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการก็ถูกพูดถึงเยอะมากๆกับเจ้า Xiaomi Redmi Note 5 เรามาดูกันดีกว่าครับว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มันจะมีอะไรน่าสนใจ และมันจะมีดีขนาดไหน ? เรามาเริ่มอ่านกันเลยย ..
UNBOX XIAOMI REDMI NOTE 5
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- ตัวเครื่อง
- คู่มือ
- สายชาร์จ Micro – USB
- หัวชาร์จไฟแบบ 5V – 2A
- เข็มจิ่มซิม
- เคสซิลิโคนแบบใส
DESIGN ว่าด้วยเรื่องของดีไซน์ Xiaomi Redmi Note 5 เป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับบอดี้ที่เป็นโลหะ การดีไซน์รูปทรงแบบ Unibody ก็จะคล้ายๆกับรุ่นพี่อย่าง Xiaomi Redmi 5 Plus ตัวเครื่องมีดีไซน์ที่โค้งมนเล็กน้อย ตัวเครื่องแอบหนักนิดหน่อย แต่ก็มีน้ำหนักพอๆกับ Redmi 5 Plus ครับ
ตัวเครื่องด้านหน้า : มาพร้อมหน้าจอแสดงผลชนิด IPS LCD ขนาด 5.99 นิ้ว อัตราส่วน 18 : 9 ความละเอียด FULL HD+ 1080 x 2160 พิกเซล ( 403ppi ) กระจกกันรอย Corning Gorilla Glass ครอบทับด้วยกระจกแบบ 2.5 D ( หน้าจอ 18 : 9 จะทำให้ตัวเครื่องดูยาวๆหน่อยๆนะครับ )
เหนือหน้าจอแสดงผลมาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f2.0 ขนาดเซ็นเซอร์ 1.12µm มีลำโพงฟัง , LED flash , และไฟแจ้งเตือนสถานะ
ด้านล่างในจอแสดงผลจะมี Recent Apps , ปุ่มโฮม และ ปุ่มย้อนกลับ ที่เราสามารถสลับตำแหน่งหรือทำการซ่อนได้
สำหรับตัวเครื่องด้านช้าย : จะมาพร้อมกับช่องใส่การ์ด ถาดซิมแบบไฮบริด ใช้ชิมแบบ Nano-SIM, รองรับการใช้งาน 4G LTE + 3G เป็นแบบ dual stand-by เเละสามารถเพิ่ม Micro SD ได้สูงสุด 256 GB
สำหรับตัวเครื่องด้านล่าง : มีพอร์ทเชื่อมต่อแบบ Micro-USB 2.0 และ ไมโครโฟนสำหรับสนทนาด้านซ้าย ด้านขวาจะเป็นลำโพงหลัก เเละ รองรับระบบ ชาร์จเร็ว Quick Charge 2.0
สำหรับตัวเครื่องด้านบน : มีช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม มีรูไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนและ รีโมท IR ( อินฟราเรด ) ที่เอาไว้ใช้สำหรับควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้า
สำหรับตัวเครื่องด้านขวา : มีปุ่มเพิ่ม/ ลดเสียง และ ปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง ( กดได้ง่ายไม่เเข็งมาก )
สำหรับตัวเครื่องด้านหลัง : บอดี้ตัวเครื่องจะเป็น Aluminum มีเส้นเอาไว้รับสัญญาณบนล่าง ตัวเครื่องด้านหลังจะมีดีไซน์ที่มีความโค้งทั้งด้านซ้ายเเละด้านขวาของตัวเครื่อง ด้านหลังติดตั้งกล้องคู่แนวตั้งความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 ขนาดเซ็นเซอร์ 1.4 µm กล้องรองความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 ขนาดเซ็นเซอร์ 1.25µm มาพร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-LED ที่อยู่ตรงกลางของตำแหน่งกล้องทั้งสอง
ในส่วนของเลนส์กล้องจะนูนออกมาจากตัวเครื่องถ้าไม่ใส่เคสก็ควรจะต้องระวัง เเต่ถ้าใส่เคสก็ไม่ต้องไปซีเรียสครับ
ถัดลงมาจะเป็นตำแหน่งของสแกนลายนิ้วมือ ( Fingerprint )
พร้อมโลโก้ MI อยู่ด้านล่าง
รายละเอียด XIAOMI REDMI NOTE 5
- จอแสดงผลแบบเต็มหน้าจอ (Fullscreen) 5.99 นิ้ว อัตราส่วน 18:9 ความละเอียด FullHD+ ( 1080 x 2160 พิกเซล )
- CPU Qualcomm®Snapdragon™ 636 Octa-core 1.8 GHz
- GPU Adreno 509
- RAM 3
- ROM 32 รองรับ microSD CARD ได้สูงสุด 256 GB
- การเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band รองรับ Wifi 5G / Bluetooth 5.0 , รองรับ 2 SIM แบบ Hybrid ขนาด Nano-SIM เป็นแบบ Dual stand ( 4G / 3G )
- Android 8.1 ( Oreo ) ครอบทับด้วย MIUI 9
- มีวิทยุ FM
- กล้องหน้า 13 MP ( f/2.0, 1.12µm ), LED flash , วีดีโอ 1080p
- กล้องหลังคู่ 12 MP ( f/1.9, 1.4µm ) + 5 MP ( f/2.0, 1.25µm ) Dual pixel phase detection autofocus, dual-LED flash วีดีโอ 1080P@30fps
- ระบบสแกนลายนิ้วมือ Fingerprint / ระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า Face Unlock
- แบตเตอรี่ 4.000mAh รองรับระบบ Quick Charge 2.0
- รายละเอียดตัวเครื่อง 158.6 x 75.4 x 8.1 mm
- น้ำหนัก 181 กรัม
- รุ่นแรม 3 GB รอม 32 GB ราคา 5,990 บาท
- รุ่นแรม 4 GB รอม 64 GB ราคา 6,990 บาท
คุณภาพหน้าจอ
ก่อนอื่นเลยเรามาพูดถึงเรื่องคุณภาพหน้าจอกันก่อนดีกว่าเรื่องของจอภาพมีความคมชัด สีดูไม่สดมากจนเกินไปโทนสีเป็นธรรมชาติในแบบของ IPS จอจะออกเหลืองๆหน่อยเเต่ก็สามาถเข้าไปปรับโทนสีได้ เรื่องของความสว่างก็มีความสว่างพอสมควร เเต่ก็ใครจะไปใช้งานกลางแดดก็ระวังร้อนด้วย ( ล้อเล่น 555 ) หน้าจออาจจะยังไม่สู้เเดดเท่าไรเเต่ก็ไม่เลวร้ายครับ โดยรวมถือว่าดี
คุณภาพเสียง
ต่อมาเรามาพูดถึงคุณภาพของเสียงอย่างเเรกคือเสียงลำโพง เสียงลำโพงถือว่าดังเอาเรื่องมีความดังกว่า MIX 2S เเต่ถ้าจะเน้นรายละเอียดก็อาจจะยังไม่เท่าไรเเต่โดยรวมถือว่าทำออกมาดีเพราะว่ามันได้เสียงดัง ดูหนังเล่นเกม ลำโพงดังซะใจ ในส่วนเสียงผ่านหูฟังอยู่ในระดับทั่วไปครับคงจะต้องหาหูฟังดีๆมาไว้สักอันครับ
คุณภาพแบตเตอรี่ / ความร้อน
เเบตเตอรี่โดยรวมผมประทับใจนะเพราะว่าผมไม่ได้เล่นเกมเท่าไร ใช้งานได้ยาวๆถ้าจะเอาไว้เเค่เล่น Line , Facebook , IG หรือ โซเซียล สำหรับคนที่เน้นเล่นเกมก็ถือว่าเล่นได้นานเอาเรื่องผมลองเล่น ROV ประมาณ 1 เกมเเบตลดไปประมาณ 3% ส่วนเรื่องความร้อนถ้าไม่เล่นเกมก็ปกติครับ แต่ถ้าเล่นเกมก็อุ่นๆไม่ถึงกลับร้อนมากครับ ในส่วนเรื่องของการชาร์จแบตเตอรี่ก็ใช้เวลาชาร์จโดยประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆครับตั้งเเต่ 15 % – 100 %
GPS
เรื่องของ GPS หลายๆคนอยากให้ผมลอง ผมก็ลองให้นะก็ถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว ไม่เลวร้ายผมลองขึ้น BTS เเล้วเปิดตัว GPS ทดสอบ มันก็วิ่งตามตำแหน่งก็ผมได้อย่างดี เเต่ต้องบอกก่อนว่ายังไม่เคยลองนั่งในรถเเล้ววิ่งลงไปในอุโมงค์นะครับ เเต่ถ้าถามว่าพอใจไหมส่วนตัวผมพอใจครับสำหรับการจับ GPS ของเครื่องนี้
ทดสอบใช้งานในการเล่นเกม
ในเรื่องของการเล่นเกมส์สามารถเล่นเกมส์ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีนะ เล่นเกมในระดับกราฟฟิคกลางๆได้แบบสบายๆ เกมอย่างพวก Freefire , ROS , Pubg Mobile ก็เล่นได้สำหรับกราฟฟิคที่เขาตั้งค่าเริ่มต้น ในส่วนของ Pubg Mobile ส่วนตัวผมรู้สึกว่ามันจะเเลคๆหน่อยอาจจะเป็นเพราะเกมพึ่งปล่อยอัพเดทใหม่ สำหรับเกมส์ ROV ที่ทดสอบจะได้ค่า FPS โดยประมาณ 27 – 30 FPS เอาเป็นว่าสำหรับคนที่ชอบเล่นเกมเเต่งบน้อย ถ้าเทียบกับสมาร์ทโฟนของค่ายอื่นรุ่นนี้กินขาดครับในเรทราคาเท่ากันตั้งเเต่หลักพันจนถึงหลักหมื่นต้นๆ อีกทั้งเวลาที่เราเปิดโหมดห้ามรบกวนเวลามีคนโทรเข้ามาหรือว่ามีแอพเเจ้งเตือนก็จะไม่มีแถบเเจ้งเตือนแอพขึ้นมากวนใจ หรือคนที่อยากเล่นแบบ 60 FPS ก็สามารถเปิดได้โดยการเคาะที่เขาฮิตๆกัน FPS ที่ได้ก็จะอยู่ประมาณ 55 – 61 FPS
คลิปทดสอบเกม
ประสิทธิภาพในการทำงาน
Redmi Note 5 รุ่นที่ผมได้มาคือรุ่น RAM 3GB / ROM 32GB ครับ ในรุ่นนี้มาพร้อมชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 636 Octa-core 1.8 GHz มาพร้อมกับ GPU Adreno 509 ในเรื่องของการใช้งานต่างๆไม่ต้องห่วงเลยครับ ลื่นไหลสบายๆไม่ว่าจะเล่นเกมสลับแอพตัวเครื่องก็ทำออกมาได้ลื่นติดมือ สำหรับ Sensor สำคัญๆก็ใส่มาให้หมดไม่ว่าจะเป็น Gyro ที่เอาไว้สำหรับดู VR หรือ พวกคลิป 360 องศาก็สามารถดูได้หรือรวมถึงคนเล่น Pokemon Go ก็สามารถเล่นได้ครับ
ผลคะแนน AnTuTu Benchmark ก็ออกมาอยู่ที่ประมาณ 115,716 คะแนน อันนี้ต้องเเจ้งก่อนนะว่ากดทดสอบเเค่ 1 รอบเท่านั้น สมาร์ทโฟนราคา 5,990 บาท ทำขนาดได้คะแนนได้ขนาดนี้ OMG !!
รุ่นนี้หลังจากการทดสอบก็สามารถรองรับการใช้งาน Multi Touch ได้สูงสุด 10 จุด หน่วยความจำชนิด EMMC 5.1 และ มีเชนเซอร์ต่างๆดังต่อไปนี้
- Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
- Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
- Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ (คล้ายตัววัดระดับน้ำ)
- Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
- Gyroscope Sensor เซนเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน
หน้าตาระบบ และ ฟังก์ชัน
Xiaomi Redmi Note 5 จะมาพร้อมกับ Android 8.1 ( Oreo ) ครอบทับด้วย Miui 9.5 จะมาพร้อมกับหน้าตา UI ที่เรียบง่ายเเละไหลลื่นเเละสวยงาม และ ไม่มีในส่วนของ App drawer และ มีฟังก์ชั่นที่มีความน่าสนใจดังต่อไปนี้
ลากจอลงมาจากด้านบนจะเห็นตัว Notification นั้น มี quick setting ให้ใช้งาน สามารถเลือกและ ปรับ แสงสว่างจอได้มีตัวปิดเปิด Wifi , ข้อมูลมือถือ , ไฟฉาย , โหมดเครื่องบิน
มีการใช้งานแอปโคลนที่สามารถ แยกแอปมาเป็นสองอันได้ หรือ สามารถเล่น Line 2 เบอร์พร้อมกัน Facebook สอง ID พร้อมกันได้ และ สามารถโคลนได้เกือบทุกแอพเลย | มีแอป รีโมท MI ที่สามารถเปลี่ยนมือถือให้เป็นรีโมทควบคุม เครื่องใช้ไฟฟ้าที่บ้านได้ผ่าน
อีกหนึ่งลูกเล่นของ MIUI 9.5 ก็คือเราสามารถเรียกใช้งาน Multi window หรือให้เข้าใจง่ายๆก็คือ มันเป็นฟังก์ชันการใช้งานสองแอปพลิเคชันได้ในเวลาเดียวกันครับ
อีกทั้งเรายังสามารถซ่อนปุ่มการใช้งานปุ่มย้อนกลับหรือปุ่มเมนูเสมอ ออกเเล้วใช้งานแบบเต็มจอได้เลย
มีคลังธีมและภาพสวยๆให้เลือกปรับเเต่งได้ตามต้องการ โดยเราสามารถเข้าไปเลือกโหลดใช้งานฟรีได้เลยครับมีอัพเดทตลอดด้วย
อีกทั้งยังมี 1 สิ่งที่ควรรู้สำหรับคนที่ซื้อใช้เเล้วหรือคนที่กำลังสนใจ คือในรุ่นนี้ยังสามารถจับ WIFI เเล้วเเชร์ออกไปเป็นสัญญาณฮอตสปอตแชร์ให้เพื่อนได้อีกด้วยครับ
คุณภาพกล้องหลัง
Xiaomi Redmi Note 5 เรื่องของกล้องหลังถือว่าพัฒนาอย่างก้าวกระโดดเเละอัดกล้องหลังมาจัดเต็ม ในรุ่นนี้จะมาพร้อมกับกล้องหลังคู่ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 ขนาดเซ็นเซอร์ 1.4 µm กล้องรองความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 ขนาดเซ็นเซอร์ 1.25µm มาพร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-LED มาพร้อมกับระบบโฟกัสภาพแบบ Dual Pixel ที่มีอยู่ในกล้อง Dslr ทำให้สามารถโฟกัสภาพได้ไวยิ่งขึ้น มี HDR ตรวจจับใบหน้า , พาโนราม่า , โฟกัสแบบสัมผัส รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด 1080P @ 30 fps
อีกทั้งกล้องหลังรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี AI ที่มาช่วยในการถ่ายภาพ AI จะทำการเรียนรู้ภาพว่าในตอนนี้เรากำลังถ่ายภาพอะไรอยู่ เเละจะปรับแสง ปรับภาพให้โดยอัตโนมัติ ทำให้ภาพถ่ายของเราออกมาสวยมากยิ่งขึ้น ( มันก็สวยขึ้นจริงๆ )
หน้าตาของกล้องก็จะประมาณนี้ มีโหมดต่างๆให้ได้เลือกใช้งาน โหมดโปรปรับได้แค่ ISO , WB เท่านั้น ไม่สามารถปรับความเร็วชัตเตอร์ได้ ยังคงมีมีโหมดลูกเล่น Filter ส่วนโหมดวีดีโอ สามารถอัดได้ความละเอียด 1080P มีการถ่ายภาพส่วนบุคคลหรือหน้าชัดหลังเบลอ Portrait ได้
ตัวอย่างภาพถ่าย
ตัวอย่างภาพ Portrait
คุณภาพกล้องหน้า
ส่วนกล้องหน้ารุ่นนี้ความละเอียดอยู่ที่ 13 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสุด f/2.0 มาพร้อมฟีเจอร์ AI Beautify ที่มาช่วยปรับภาพถ่ายเซลฟี่ของเราให้ดูดียิ่งขึ้น ปรับหน้าให้เนียนลบรอยต่างๆบนใบหน้าและช่วยปรับแสงอีกทั้งยังมีโหมด Portrait รูปที่ได้อาจจะไม่คมมากเเต่ก็เรียกได้ว่าโอเคครับ
ตัวอย่างภาพกล้องหน้า
Xiaomi Redmi Note 5
สรุปเลยเเล้วกันสำหรับรุ่นนี้ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่าที่สุดในตลาดสมาร์ทโฟนเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของราคาที่ไม่เเพง สเปคที่จัดมาก็ถือว่าดี กล้องหน้าหลังทำออกมาได้ดีถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้ทั้งหน้าเเละหลัง ได้หน้าจอขนาดใหญ่ เล่นเกมลื่นๆคนที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่อยู่ที่ราคาไม่เเพง รุ่นนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจสำหรับคุณครับ
ข้อดี
- หน้าจอแสดงผลสวย
- ดีไซน์สวยทันสมัย
- แบตเตอร์รี่ค่อนข้างอึดชาร์จไว
- กล้องหน้าเเละหลังถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้ มี AI และมี AI
- ระบบลื่นไหล
- สามารถโคลนแอพได้เล่น Line , facebook หรือรวมไปถึงแอพต่างๆได้ Account
ข้อสังเกต
- กล้องหลังนูนออกมาจากตัวเครื่องเยอะไม่ใส่เคสอาจเป็นรอย
- กล้องหลังยังโฟกัสช้าบ้างบางครั้งเวลาถ่ายโหมด Portrait
- กล้องหน้าเเละหลังเบลอง่ายต้องมือนิ่งๆจริงๆ
Review By : Maxmoreji