เสียวหมี่ คอร์ปอเรชัน บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกที่ก้าวเป็นผู้นำด้านสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อัจฉริยะที่เชื่อมต่อบนแพลตฟอร์ม Internet of Things (IoT) เปิดเผยผลการดำเนินงานรวมของปี สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562ในปี 2562 เสียวหมี่ มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในทุกกลุ่มธุรกิจ มีรายรับรวมของกลุ่มบริษัทพุ่งสูงกว่า 2 แสนล้านหยวนเป็นครั้งแรก โดยแตะระดับ 205,840 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 17.7% เมื่อเทียบปีต่อปี โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสม (CAGR) 9 ปีอยู่ที่ 112% และมีกำไรสุทธิหลังการปรับปรุง 11.5 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 34.8% เมื่อเทียบปีต่อปีในไตรมาสที่ 4 ปี 2562 รายได้รวมของเสียวหมี่ เพิ่มขึ้น 27.1% เป็น 56.5 พันล้านหยวน กำไรสุทธิหลังการปรับปรุงอยู่ที่ 2.3 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 26.5% เมื่อเทียบปีต่อปี
ข้อมูลสำคัญทางการเงิน ปี 2562
รายรับรวมอยู่ที่ประมาณ 205,840 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 17.7% เมื่อเทียบปีต่อปี สูงกว่าประมาณการส่วนใหญ่
กำไรขั้นต้นอยู่ที่ประมาณ 28.55 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 28.7% เมื่อเทียบปีต่อปี
กำไรสุทธิที่ยังไม่ได้ปรับปรุงตาม IFRS อยู่ที่ 11.53 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 34.8% เมื่อเทียบปีต่อปี สูงกว่าประมาณการส่วนใหญ่
กำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.0423 หยวน
จำนวนเงินรวมของทรัพยากรเงินสดอยู่ที่ 66 พันล้านหยวน
ข้อมูลสำคัญทางการเงิน ไตรมาสที่ 4 ปี 2562
รายรับรวมสูงเป็นประวัติการณ์ ประมาณ 56.47 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 27.1% เมื่อเทียบปีต่อปี และเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี
กำไรขั้นต้นอยู่ที่ประมาณ 7.84 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 38.5% เมื่อเทียบปีต่อปี
กำไรสุทธิที่ยังไม่ได้ปรับปรุงตาม IFRS อยู่ที่ 2.34 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 26.5% เมื่อเทียบปีต่อปี
นายเหลย จุน ผู้ก่อตั้ง ประธานบริษัท และประธานกรรมการบริหาร เสียวหมี่ กล่าวว่า “แม้จะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ และภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก แต่เสียวหมี่ก็ยังมีผลประกอบการอันโดดเด่นในปี 2562 ด้วยรายรับที่พุ่งสูงกว่า 2 แสนล้านหยวนเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ เรายังเฉลิมฉลองหลากหลายความสำเร็จในรอบปี นับตั้งแต่ การเปิดตัวกลยุทธ์ Dual-Brand ที่ทำให้เสียวหมี่และ Redmi ดำเนินงานแยกกันอย่างอิสระ การตอกย้ำ ‘5G + AIoT’ เป็นแผนกลยุทธ์ของเรา ไปจนถึงการติดอันดับ Fortune Global 500 และ BrandZ’s Top 100 แบรนด์ที่มีค่ามากที่สุดในโลก”
“ในขณะที่ทั้งโลกยังคงตกอยู่ภายใต้เงื้อมเงาของโควิด-19 เรายังคงมุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพเพื่อให้ก้าวผ่านเหตุการณ์อันไม่คาดคิดทางเศรษฐกิจนี้ไปพร้อมกับทุกๆ ท่าน ที่เสียวหมี่เราเชื่อมั่นว่าความสำเร็จทางธุรกิจในระยะยาวของเราเป็นผลมาจากนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ด้วยเหตุนี้เราจึงวางแผนที่จะลงทุน 5 หมื่นล้านหยวนในห้าปีข้างหน้า เพื่อพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยีและประสบการณ์ของผู้ใช้อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อขยายฐานแฟนคลับ (Mi Fan) โดยรวมแล้ว เรายังคงมุ่งมั่นที่จะใช้เทคโนโลยีเพื่อเชื่อมต่อ และปรับปรุงคุณภาพชีวิตในทุกๆ ที่ในอนาคต”
สรุปผลการปฏิบัติงานประจำปี
ธุรกิจสมาร์ทโฟนยึดส่วนแบ่งทางการตลาด 5G
ในปี 2562 รายได้ของกลุ่มสมาร์ทโฟนของเสียวหมี่ สูงถึง 1.221 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้น 7.3% เมื่อเทียบปีต่อปี ในไตรมาสที่ 4 ปี 2562 รายได้ของสมาร์ทโฟนอยู่ที่ 30.8 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 22.8% เมื่อเทียบปีต่อปี สำหรับปี 2562 เสียวหมี่มียอดการจัดส่งสมาร์ทโฟน 124.6 ล้านเครื่อง โดยในไตรมาสที่ 4 มียอดการจัดส่งประมาณ 32.6 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 30.5% เมื่อเทียบปีต่อปี จากข้อมูลของ Canalys ในไตรมาสที่ 4 ปี 2562 เสียวหมี่มีการเติบโตด้านการจัดส่งต่อปีสูงที่สุดในกลุ่มบริษัทสมาร์ทโฟนใน 5 อันดับแรก
ธุรกิจ IoT เติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง
ปี 2562 เป็นปีแรกสำหรับการดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ Dual Engine “สมาร์ทโฟน + AIoT” โดยรายได้ของเสียวหมี่จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ IoT และไลฟ์สไตล์ในปี 2562 อยู่ที่ 62.1 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 41.7% เมื่อเทียบปีต่อปี และคิดเป็น 30% ของรายรับรวม เพิ่มขึ้นจาก 25% ในปี 2561 สำหรับในไตรมาสที่ 4 ปี 2562 รายรับอยู่ที่ 19.5 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 30.5% เมื่อเทียบปีต่อปี
เกือบครึ่งหนึ่งของรายรับรวมมาจากตลาดต่างประเทศ
ในปี 2562 รายรับของเสียวหมี่จากตลาดต่างประเทศอยู่ที่ 91.2 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 30.4% เมื่อเทียบปีต่อปี สำหรับในไตรมาสที่ 4 ปี 2562 รายรับจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 40.7% เมื่อเทียบปีต่อปี สู่ระดับ 26.4 พันล้านหยวน คิดเป็น 46.8% ของรายรับรวม ปัจจุบันผลิตภัณฑ์เสียวหมี่มีอยู่กว่า 90 ประเทศในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก นอกจากนี้ จากข้อมูลของ Canalys จำนวนการจัดส่งสมาร์ทโฟนของเสียวหมี่ยังติดอันดับหนึ่งในห้าของ 45 ประเทศทั่วโลกในปี 2562 อีกด้วย
บริการอินเทอร์เน็ตอันหลากหลายยังคงสร้างรายรับเพิ่มขึ้น
ในปี 2562 รายรับจากการให้บริการอินเทอร์เน็ตของเสียวหมี่สูงถึง 19.8 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 24.4% เมื่อเทียบปีต่อปี สำหรับไตรมาสที่ 4 รายรับอยู่ที่ 5.7 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 41.1% เมื่อเทียบปีต่อปี ในเดือนธันวาคม 2562 จำนวนผู้ใช้งานรายเดือนทั่วโลกของ MIUI เพิ่มขึ้น 27.9% เมื่อเทียบปีต่อปี เป็น 309.6 ล้านคน โดยจำนวนผู้ใช้งานรายเดือนของ MIUI ในจีนแผ่นดินใหญ่อยู่ที่ 109 ล้านคน
ผลกระทบจากการระบาดของ โควิด-19
ในช่วงต้นปี 2563 โรคโควิด-19 แพร่กระจายไปทั่วโลก เสียวหมี่ประสบปัญหาจากการหยุดชะงักชั่วคราวในการผลิตในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม 2563 แต่หลังจากนั้น กำลังการผลิตเริ่มฟื้นตัวขึ้นเป็น 80% – 90% ของระดับปกติ
สำหรับตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ ในช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนักที่สุด ยอดขายออฟไลน์ของเสียวหมี่ได้รับผลกระทบเนื่องจาก Mi store ส่วนใหญ่ปิดหรือเปิดดำเนินการในระยะเวลาที่จำกัด และจำนวนลูกค้าก็ลดลงอย่างมาก อย่างไรก็ตาม จากข้อได้เปรียบในช่องทางออนไลน์ทำให้เสียวหมี่ได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อย
สำหรับตลาดต่างประเทศ ด้วยความแข็งแกร่งในระดับโลกและการขยายสู่ตลาดใหม่อย่างต่อเนื่อง เสียวหมี่ยังคงมีความหวังในศักยภาพในระยะยาวของตลาดต่างประเทศ
ที่สำคัญ ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตของเสียวหมี่ เช่น วิดีโอและเกมออนไลน์ มีอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่ง เนื่องจากประชาชนจำนวนมากต้องอยู่กับบ้านในช่วงการระบาดของโควิด-19